ทาสรักทาสหัวใจ - ตอนที่ 6 โอกาสที่รอคอย
ณ ผับชื่อดังใจกลางเมืองภพยืนขบกรามแน่นมองซินดี้เต้นออกลวดลายกับกลุ่มเพื่อนอย่างมีความสุขท่ามกลางแสงไฟสลัว ชายหนุ่มพยายามติดต่อเพื่อจะพูดคุยกับเธอแต่หญิงสาวกลับปิดเครื่องใส่ เขาจึงลองมาที่นี้แล้วก็เป็นอย่างที่คิดเธออยู่ที่นี้จริงๆ
"ซินดี้! เรามีเรื่องต้องคุยกัน" มือหนาคว้าแขนเรียวพร้อมกับลากเธอออกไปไม่สนใจสายตาใครทั้งนั้น
"ภพคุณจะทำอะไร" ซินดี้สะดุ้งตกใจจนหน้าซีด
"รับปากมาว่าจะหยุดยุ่งกับน้ำอีก!" ภพผละออกจากหญิงสาวเมื่อปลอดผู้คนมองเธอด้วยสายตาดุดัน
"ทำไมต้องรับปากด้วยค่ะ ซินดี้ยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย" ซินดี้ลอยหน้าลอยตาพูด
"ไม่ได้ทำ แล้วที่พนักงานของผมสลบคาห้องน้ำมันคืออะไร"
"ก็แค่พนักงานกระจอกๆ คนหนึ่งคุณจะแคร์อะไรนักหนาคะ"
"ผมไม่คิดเลยว่าคุณจะดูถูกคนถึงขนาดนี้" ภพมองหน้าซินดี้ด้วยความผิดหวัง
"แล้วยังไงคะ มันยังไม่ตายสักหน่อย อยากจะเข้ามาแส่หาเรื่องดีนัก"
"ให้ตายเถอะซินดี้ คุณมันไม่มีจิตสำนึกเลยจริงๆ ถ้าคุณยังไม่ปรับปรุงตัวผมจะบอกให้ลูกค้ายกเลิกงานคุณทั้งหมดแล้วเอานางแบบคนอื่นมาแทน"
"เพราะผู้หญิงคนเดียว คุณถึงต้องตัดอนาคตของซินดี้เลยเหรอคะ"
"ผมทำเพื่อบริษัท ถ้าคุณยังก่อเรื่องอีกอย่าหวังว่าจะได้ไปเหยียบที่นั่นอีก แม้แต่ความเป็นเพื่อนระหว่างเราสองคนก็จะไม่เหลือ"
"เพื่อยัยน้ำหน้าจืดนั้น คุณถึงขนาดต้องข่มขู่กันถึงขนาดนี้เลยเหรอคะ รู้ไหมว่าในห้องน้ำวันนั้นมันพูดอะไรออกมาบ้าง มันบอกว่าไม่เคยรักภพเลย ภพยังจะรั้นรักมันอีกเหรอคะ"
"ถ้าคุณยังไม่ยอมหยุด! ผมจะเอาเรื่องที่คุณทำร้ายพนักงานของผมถึงตำรวจ ไม่เชื่อก็ลองดู!" ภพยื่นคำขาดกับนางแบบสาวแล้วเดินจากไปทันที
"กรี๊ด! "ซินดี้ได้แต่แหกปากเสียงดังระบายความโกรธออกมาเท่านั้นเพราะไม่สามารถตอบโต้ชายหนุ่มได้อีก
ภพพาตนเองเข้าไปนั่งบนรถด้วยอารมณ์ขุ่นมัวเมื่อนึกถึงน้ำหญิงสาวที่เขารักมาโดยตลอด เธอปฏิเสธเขาครั้งแล้วครั้งไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกลเธอก็ไม่ทางหันมามองเขาเลย เขาไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงแล้วจริงๆ
วันต่อมา
มุกเข้าบริษัททำงานตามปกติระหว่างที่กำลังก้มหน้าทำงานไปก็นึกถึงเหตุการณ์ในห้องน้ำเมื่อวาน คำพูดของน้ำหญิงสาวที่ภพให้ความสำคัญเป็นพิเศษมันหมายความว่ายังไงที่เธอบอกว่าไม่ได้มีอะไรเกินเลยกับชายหนุ่ม เธอยอมรับเลยว่าชายหนุ่มเป็นคนที่มีเสน่ห์มากไม่อย่างซินดี้คงจะไม่กล้าจะลงมือทำร้ายคนพิเศษของชายหนุ่มได้หรอก ผู้ชายอย่างเขามีแต่ผู้หญิงเข้าหาคงจะปวดหัวน่าดูเลย
"มุกจ้ะ"
"คุณน้ำ" มุกรีบหันไปตามเสียง
"น้ำซื้อยาทารอยแผลเป็นมาให้น่ะ ถ้าแผลแห้งตกสะเก็ตอย่าลืมทาทุกวันนะ ผิวจะได้สวยเหมือนเดิม นี่จ้ะ" น้ำยื่นถุงยาให้มุก
"ขอบคุณค่ะ คุณน้ำ ให้สองหลอดเลยเหรอคะ"มุกทำหน้าแปลกใจ
"จ้ะ จะได้ทานานๆ ถ้าหมดแล้วบอกน้ำได้เลยนะ จะเอามาให้อีก"
"ค่ะ"มุกส่งยิ้มให้น้ำ
"ดูมุกหน้าซีดๆ นะ" น้ำมองหน้ามุกด้วยความเป็นห่วง
"มุกไม่เป็นไรค่ะ" พูดจบเธอก็เกิดอาการหน้ามืดขึ้นมารีบยื่นมือไปหาหลักยึดประคองตัวเอาด้วยการยืนพิงกับโต๊ะทำงาน
"น้ำว่าไปพักในห้องพยาบาลสักหน่อยนะ ดูท่าไม่ค่อยดีเลย" น้ำรีบเข้าไปพยุงมุกเอาไว้
"นั้นสิ ไปพักสักหน่อยนะมุก"บุษบาเอ่ยเสริมขึ้น
"ค่ะ ช่วยหยิบกระเป๋าให้หน่อยได้ไหมคะ มุกรู้สึกปวดแผลจะกินยาสักหน่อย"
ทิพได้ยินอย่างนั้นจึงรีบหยิบกระเป๋าของมุกจากโต๊ะขึ้นมาพร้อมกับช่วยประคองช่วยมุกไปยังห้องพยาบาลอีกคน หลังจากที่น้ำจัดแจงให้มุกกินยานอนพักบนเตียงเสร็จสรรพก็ชวนทิพออกไปจากห้องทันทีเพราะมีงานรออยู่
"พี่ภพค่ะ"น้ำเอ่ยเรียกชายหนุ่มรุ่นพี่ขึ้นเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาฝ่ายโฆษณา
"โทษทีนะ วันนี้พี่มาสายหน่อย พอดีพี่เข้าไปไปที่โรงงานมา"
"งานยุ่งมากสินะคะ"
"ก็นิดหน่อย โชคดีที่มีคนเก่งๆ ของคุณแม่ที่ไว้ใจได้ช่วยดูให้"
"พี่ไปดูมุกหน่อยสิคะ"
"ดูทำไม"ภพขมวดคิ้วเข้าหากันได้ความงงงวย
"คือมุกเขาไม่ค่อยสบายอยู่ในห้องพยาบาลโน้นค่ะ น้ำเป็นคนพาไปเอง"
"ไม่สบายแล้วมาทำไม" ภพบ่นพึมพำ
"พี่ไปดูหน่อยแล้วกัน ถ้าไม่ดีขึ้นจะได้พาไปหาหมอ"
"อืม" ภพพยักหน้ารับ
ภพผลักประตูเข้าไปในห้องพยาบาลก็เห็นมุกกำลังนั่งดื่มน้ำอยู่เงียบๆ คนเดียว เธอส่งสายตามองไปทางชายหนุ่มด้วยความตกใจเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าชายหนุ่มจะเข้ามา
"เป็นยังไงบ้าง" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น
"ดีขึ้นมากแล้วค่ะ"
"ถ้าไม่ไหวฉันอนุญาตให้กลับไปพักที่บ้านได้เลย"
"มุกไหวค่ะ แค่หน้ามืดนิดหน่อยเองสงสัยจะพักผ่อนน้อยไป"
"แล้วแผลเธอล่ะ"
"ปวดนิดหน่อยค่ะ กินยาแก้ปวดไปเมื่อกี้แล้ว" พูดพลางลุกลงจากเตียง
"เธอจะไปไหน"
"มุกจะเข้าห้องน้ำค่ะ" ร่างบางเดินตรงไปยังหน้าประตูที่อยู่ใกล้ๆ ทันที
ด้วยความที่เธอเร่งรีบไปหน่อยทำให้เธอเกิดอาการหน้ามืดขึ้นมาทำท่าโอนเอนจะล้มลง ภพเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเข้าไปประคองร่างของเธอเอาไว้ได้ทัน มุกจึงตกอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่มไปโดยปริยาย ความใกล้ชิดที่ไม่ได้ตั้งใจส่งผลให้คนทั้งคู่หัวใจเต้นแรงด้วยความรู้สึกที่อธิบายออกมาไม่ถูก
"ฉันว่าเธอไปหาหมอเถอะ" ภพพยายามเก็บอาการเอาไว้
"สงสัยมุกรีบเดินไปหน่อย เดี๋ยวก็หายค่ะ ขอบคุณนะคะที่ช่วย" มุกมองใบหน้าชายหนุ่มไม่วางตา
"จะเข้าห้องน้ำไม่ใช่เหรอ เข้าสิ" ภพรีบผละออกจากร่างบางทันที
"ค่ะ"
ภพยืนรออยู่ตรงหน้าห้องน้ำจนมุกออกมา ร่างบางมองชายหนุ่มร่างหนาที่เอาแต่มองเธอด้วยอาการประหม่าจนทำตัวไม่ถูก มุกพาตนเองไปนั่งลงบนเตียงพร้อมกับหันไปมองเจ้านายหนุ่มที่เอาแต่ยืนนิ่งหันข้างให้เธออยู่เป็นระยะ
"แน่ใจนะ ว่าจะไม่ไปหาหมอ"
"ค่ะ"
"งั้นก็นอนพักผ่อนได้แล้ว เดี๋ยวตอนเย็นฉันจะะไปส่งที่บ้านเอง"
"ไม่เป็นไรค่ะ มุกกลับเองได้"
"ทำไมหรือว่ามีคนอาสาไปส่งแล้ว" ภพถามกลับเพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้นัดหมายกับใครไว้
"เปล่านะคะ มุกแค่เกรงใจ" มุกรีบปฏิเสธทันควัน
"อืม ถ้าฉันเคลียร์งานเสร็จฉันจะมาเรียกนะ"
"ค่ะ" มุกรับคำพร้อมกับยิ้มมุมปากด้วยความดีใจ
ทันทีที่ภพเดินออกไปจากห้องมุกก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงหลับตาลงเพื่อพักผ่อนด้วยความสุขเล็กน้อยภายในใจ ส่วนภพก็พาตนเองไปยังห้องทำงานระหว่างที่กำลังอ่านเอกสารอยู่ในหัวก็นึกถึงใบหน้าหญิงสาวในห้องพยาบาลกับอาการที่บอกไม่ถูกเมื่อเขาได้ใกล้ชิดเธอเมื่อสักครู่ ชายหนุ่มรีบสลัดความคิดทิ้งแล้วรีบทำงานตรงหน้าต่อ ตกเย็นชายหนุ่มก็ไปส่งมุกที่บ้านตามที่บอกไว้ ก่อนที่มุกจะลงจากรถชายหนุ่มก็ไม่ลืมเอ่ยเตือนให้เธอทานยาเมื่อมีอาการ ซึ่งเธอก็รับคำอย่างว่าง่าย
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
น้ำกับภพกำลังเดินออกมาตรงลานจอดรถพร้อมกัน เพื่อที่จะแยกย้ายกันกลับ ระหว่างนั้นภูมิที่นั่งอยู่ในรถก็เปิดประตูก้าวลงมาจากรถตรงเข้าไปหาคนทั้งคู่ด้วยอารมณ์ขุ่นมัวที่เห็นคนทั้งสองคนเริ่มที่จะสนิทสนมกันมากขึ้นทุกวัน
"อะแฮ่ม" ภูมิแสดงตัวตนกับคนทั้งสองทันที
ทั้งภพและน้ำต่างก็จ้องมองไปที่ชายหนุ่มด้วยความไม่พอใจที่อยู่ๆ เขาก็โผล่มาขัดจังหวะบทสนทนาของคนทั้งคู่อย่างหน้าตาเฉยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
"เราไปกันเถอะค่ะ" น้ำจับท่อนแขนภพจะเดินออกไป
"เดี๋ยวก่อน ฉันมีธุระจะคุยกับเธอ ไปกับฉัน" ภูมิเอ่ยขึ้น
"แต่ฉันไม่มี" น้ำโต้กลับ
"แต่ฉันมี!" พูดพลางจับดึงกระชากแขนเรียวจนน้ำเซเข้ามาหาตัว ชายหนุ่มจึงถือโอกาสรวบตัวบางเข้ามากอดไว้
"ปล่อยนะ!" น้ำดิ้นขัดขืน
"ปล่อยน้ำเดี๋ยวนี้นะ!" ภพเอ่ยเสียงดุดัน
"แกไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉัน น้ำเป็นผู้หญิงของฉัน แกไม่ต้องมาเสือก" กอดรัดร่างบางแน่นขึ้นกว่าเดิม
"ถ้าน้ำเขาเต็มใจ ฉันก็ไม่อยากจะเสือกหรอก" ภพขบกรามแน่น
"ว่าไงเธอจะไปคุยกับฉันดีๆ ไหม" ภูมิเอ่ยถามร่างบาง
"ไม่!" พูดพลางผลักร่างหนาออกแรงๆ
"ทำไม ทีทุกครั้งฉันทำมากกว่าคุยเธอยังยอมเลย"
"หยาบคาย! ออกไปให้พ้นหน้าฉันเลยไป!"
"นี่เธอกล้าไล่ฉันเหรอ"
"ใช่ จะให้ทำมากกว่าไล่ฉันก็ทำได้สำหรับคนอย่างคุณ"
"เพราะไอ้หน้าจืดนี่ใช่ไหม เธอถึงได้เกลียดฉันมากขนาดนี้"
"ไม่ต้องไปโทษใครหรอก มันเพราะตัวคุณเองทั้งนั้น ไปค่ะพี่ภพ"
"เธอคิดเหรอ ว่าฉันจะปล่อยเธอไปง่ายๆ มานี่!" ดึงกระชากร่างบางเข้ามาหาตัวพร้อมกับรวบกอดไว้แน่น
"แกจะทำอะไร ปล่อยน้ำนะ!" ภพกำมือแน่น
"ก็ทำอย่างที่เคย ๆ กันยังไงล่ะ ดูชัดๆ ให้เต็มสองตาแกเลยนะ" ริมฝีปากหนาประกบจูบริมฝีปากบางต่อหน้าต่อตาภพด้วยความรวดเร็ว
"ปล่อย…อื้อ" น้ำดิ้นขัดขืนสุดกำลังเท่าที่มี
ผัวะ! ภพเดินเข้าไปกระชากภูมิออกห่างจากน้ำพร้อมกับชกเข้าไปที่ใบหน้าสากแรงๆ ทีหนึ่งด้วยความเดือดดาลจนชายหนุ่มเลือดกลบ น้ำได้แต่ยืนมองด้วยความตกใจเท่านั้น
"เป็นไง แกยังจะกล้ายุ่งกับน้ำอีกไหม!" ภพจ้องหน้าภูมิตาเขม้น
"ทำไมฉันจะยุ่งไม่ได้ แกต่างหากที่ไม่มีสิทธิ์ที่จะยุ่งกับน้ำ" ภูมิพูดพลางแตะริมฝีปากตนเองเบาๆ
"ทำไมจะไม่มีสิทธิ์ ฉันกับน้ำเราเป็นแฟนกันแล้ว" ภพหันไปมองหน้าหญิงสาวข้างกาย
"ใช่เราสองคนตกลงคบกันเป็นแฟนแล้ว" น้ำพูดพลางเกาะแขนภพแสดงความสนิทสนม
"ฉันไม่เชื่อ เพราะถ้าแกจะเป็นแฟนกับน้ำคงจะคบกันไปนานแล้วมั้ง จะพึ่งมาคบอะไรตอนนี้ คิดว่าฉันโง่มากนักเหรอ" ภูมิส่ายหน้าให้คนทั้งคู่
"ได้ฉันจะทำให้คุณเชื่อเอง" น้ำหันไปหอมแก้มสากของภพทีหนึ่ง เพื่อยืนยันว่าเธอกับชายหนุ่มคบกันจริงๆ
ภูมิเห็นอย่างนั้นก็เสียอาการนิ่งชะงักไปชั่วครู่ด้วยความโกรธเคืองที่หญิงสาวตรงหน้าทำอย่างนั้นกับผู้ชายคนอื่นแทนที่มันจะเป็นเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยจะได้รับจากเธอเลยด้วยเหตุผลอะไรเขาก็รู้อยู่เต็มอก
ส่วนภพก็นิ่งอึ้งไปเขาไม่คิดว่าหญิงสาวที่เขาหมายใจแอบรักมานานจะจู่โจมเขาโดยไม่ทันได้ตั้งตัวเลย แต่เขาก็ยิ้มรับในสิ่งที่หญิงสาวทำ ไม่ว่าเธอจะทำไปด้วยเหตุผลอะไรเขาก็ดีใจที่ได้รับสัมผัสจากเธอ แต่เขาก็หวังลึกๆ ว่าเธอจะเปิดใจให้เขาแทนที่จะเป็นชายหนุ่มอีกคนที่จ้องแต่จะทำร้ายร่างกายและจิตใจของเธออยู่ตลอดเวลา
"เห็นแล้วใช่ไหม ว่าเราสองคนรักกันมากขนาดไหน" น้ำพูดพลางเกาะกอดแขนแกร่งพร้อมกับซบศีรษะลงตรงไหล่ของชายหนุ่มข้างกาย
"ผมหวังว่าคุณคงจะพอใจนะ" ภพโอบกอดเอวบางเข้ามาแนบชิดลำตัวเพื่อแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของในตัวหญิงสาว
"หึ อยากจะแสดงละครก็ทำไปเถอะ อย่าให้หลุดก็แล้วกัน เพราะมันพึ่งจะเริ่มต้นเอง" ภูมิยกยิ้มมุมปากแล้วเดินจากไป
คล้อยหลังภูมิเดินออกไปภพก็เดินไปส่งน้ำที่รถด้วยความโล่งอก แต่สีหน้าของหญิงสาวข้างกายกลับไม่สู้ดีนักเหมือนกำลังเคร่งเครียดกับเรื่องที่พึ่งผ่านมาเมื่อกี้อยู่ เขารู้ว่าเธอคงจะลำบากใจที่ภูมิยังคงมาตามตื้อเธอไม่เลิกอยู่
"น้ำอย่าคิดมากเลยนะ พี่จะปกป้องน้ำจากมันเอง"
"ขอบคุณนะคะ ที่ช่วยน้ำไว้"
"ไม่เป็นไร พี่เต็มใจ "
"พี่ภพจะว่าอะไรไหมคะ ถ้าน้ำจะบอกว่าน้ำตกลงจะคบกับพี่เป็นแฟนจริงๆ "
"น้ำพูดจริงๆ เหรอ พี่ดีใจมากเลย" ภพจับกุมมือบางด้วยความดีใจ
"ค่ะ น้ำพูดจริงๆ " ส่งยิ้มให้ชายหนุ่ม
"ดีเลย พี่จะได้พาน้ำออกเดทสักที"
"ค่ะ" น้ำยิ้มรับถึงเธอจะไม่ได้รักภพแต่เธอจะลองเปิดใจให้ชายหนุ่มดูสักครั้ง
วันต่อมา
ณ บ้านพิพัทธ์ไชยในเวลาช่วงหัวค่ำน้ำกับภพกำลังนั่งทานมื้อเย็นร่วมกันกับเกษมและดวงใจ ซึ่งทั้งคู่ก็ไม่ลืมที่จะบอกสถานะของตนเองในตอนนี้ว่าเป็นอะไรกัน ซึ่งผู้ใหญ่ทั้งสองคนก็ดีใจกับทั้งคู่ด้วยที่ตกลงปลงใจจะคบกันอย่างจริงจัง
ระหว่างที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันไปอย่างเพลิดเพลิน ชายหนุ่มเจ้าเสน่ห์ที่ไม่ได้รับเชิญก็เดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับหิ้วข้าวของติดไม้ติดมือตรงเข้าไปในห้องรับประทานอาหารตามที่แม่บ้านบอก พร้อมกับเอ่ยทักทายเจ้าของบ้านตามมารยาทที่ควรจะเป็น
"สวัสดีครับ คุณลุงคุณป้า" ภูมิพนมมือไหว้ผู้ใหญ่ท้ังสองคนทันที และไม่ลืมที่จะเหลือบไปมองหญิงสาวที่ทำให้เขานอนไม่หลับตลอดทั้งคืน
ทุกคนบนโต๊ะอาหารต่างก็แปลกใจจึงหันไปมองหน้ากันด้วยความงงงวยที่อยู่ๆ ชายหนุ่มก็โผล่มาที่บ้านโดนไม่มีปี่มีขลุ่ยและไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า โดยเฉพาะน้ำเธอตกใจมากที่เห็นหน้าชายหนุ่มที่นี่เพราะเธอไม่คิดเลยว่าชายหนุ่มจะมาถึงบ้าน และที่สำคัญเธอไม่รู้ว่าเขามีจุดประสงค์อะไรกันแน่
"อ้าว! ภูมิ ลมอะไรหอบมาถึงนี่ล่ะ" เกษมเอ่ยขึ้น
"พอดีผมมาเยี่ยมครับ ซื้อของมาฝากเยอะแยะเลย" พูดพลางหันไปมองใบหน้าเนียนที่เอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมสบตากับเขา
"ไหนๆ ก็มาแล้ว งั้นก็มาทานข้าวด้วยกันสิจ้ะ" ดวงใจเอ่ยขึ้น
"จะดีเหรอครับ ผมเกรงใจยังเลย"
"จะเกรงใจอะไรกัน คนกันเองทั้งนั้น มาสิจ้ะ" ดวงพูดพลางหันไปทางแม่บ้านให้เตรียมจานมาอีกชุดหนึ่ง
"ครับ" ภูมิเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆ ดวงใจ ซึ่งเป็นฝั่งตรงข้ามกันกับภพพอดี
"ทานเยอะๆ นะภูมิ " เกษมเอ่ยยิ้มๆ
"ครับ"
ภายในโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยความอึดอัด โดยเฉพาะน้ำทีี่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาทานไปเงียบๆ ภพเห็นอย่างนั้นจึงตักอาหารใส่จานให้หญิงสาว หญิงสาวจึงหันไปส่งยิ้มให้ชายหนุ่มเป็นการขอบคุณแทน ภาพตรงหน้ามันช่างบาดตาชายหนุ่มอีกคนยิ่งนักแต่เขาพยายามเก็บอารมณ์ไว้ข้างใน
"อร่อยไหม " ภพเอ่ยถามหญิงสาวเพื่อชวนคุย
"ค่ะ พี่ภพก็ทานเยอะๆ นะคะ เดี๋ยวน้ำตักให้" น้ำยื่นมือจะตักแกงให้ชายหนุ่ม แต่กลับถูกภูมิหยิบช้อนกลางตัดหน้าไปเสียก่อน เธอจึงเลือกไปตักอาหารอย่างอื่นใส่จานให้ภพแทน ภูมิเห็นอย่างนั้นก็ได้แต่เก็บอาการไม่พอใจไว้ข้างใน
"ขอบคุณครับ" ภพตักเข้าปากทันที
"น้ำอิ่มแล้วขอตัวก่อนนะคะ" น้ำรวบช้อนลงแล้วลุกขึ้นยืนเดินออกไปทันที
"ผมขอตัวก่อนนะครับ" ภพลุกเดินตามร่างบางออกไปติดๆ
"ว่าแต่ภูมิมีธุระอะไรสำคัญหรือเปล่า"เกษมเปิดประเด็นขึ้น เพราะดูจากท่าทางของลูกสาวแล้วเหมือนจะมีอะไรมากกว่าที่ตนรู้ระหว่างคนทั้งสองอย่างแน่นอน
"เปล่าครับ อย่างที่บอกครับ ว่าผมแค่แวะมาเยี่ยม"
"ภูมิแน่ใจนะ ว่าไม่ใช่เพราะน้ำ"
"คุณลุงคุณป้าจะว่าอะไรไหมครับ ถ้าผมจะขอคบกับน้ำจริงจังสักที" ภูมิตัดสินใจพูดออกไปตรงๆ
"ช้าไปแล้วล่ะ น้ำเขาคบกับภพอยู่" เกษมถอนหายใจแรงๆ
"ไม่จริง สองคนนั้นก็แค่เล่นละครตบตาทุกคนแค่นั้นเอง" ภูมิเริ่มจะนั่งไม่ติด
"ทำไมภูมิถึงคิดอย่างนั้นล่ะ สองคนนั้นพึ่งจะบอกเราสองคนเมื่อกี้นี่เองจ้ะ" ดวงใจเอ่ยเสริมขึ้น
"แสดงว่าเป็นความจริงเหรอครับ"
"จ้ะ เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่ทั้งคู่จะโกหกเราเลย"
"แล้วคุณลุงกับคุณป้าคิดว่าสองคนนั้นรักกันจริงๆ เหรอครับ"
"เรื่องนั้นมันเป็นเรื่องระหว่างคนสองคน เราไม่ขอยุ่งจ้ะ แต่ถ้าน้ำตัดสินใจคบใครแล้ว ก็คงจะเกิดจากความรักนั้นแหละ เพราะไม่อย่างนั้นลูกสาวป้าคงจะไม่ตัดสินใจคบหรอก จริงไหม" ดวงใจพูดเสียยืดยาว
"แต่ผมมั่นใจว่าสองคนนั้นไม่ได้รักกันครับ"
"ลุงไม่รู้หรอกนะ ว่าภูมิกับน้ำมีเรื่องอะไรกัน แต่ในเมื่อน้ำตัดสินใจเลือกแล้ว ใครก็คงจะห้ามอะไรไม่ได้" เกษมเอ่ยกับชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"ครับ" ภูมิรับคำหน้าเสีย
ทางด้านน้ำกับภพกำลังยืนคุยกันอยู่ตรงสวนหน้าบ้านหลังจากที่เดินออกมาจากห้องรับประทานอาหาร น้ำยืนกอดอกคิดไม่ตกกลัวชายหนุ่มที่อยู่ข้างในจะบอกเรื่องที่เธอและเขาเคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพ่อแม่ของเธอ ได้แต่หวังในใจว่าชายหนุ่มจะไม่บอกเรื่องนี้กับท่านทั้งสองภพดูออกว่าหญิงสาวตรงหน้ากำลังคิดหนักที่ภูมิอยู่ๆ ก็โผล่มาที่บ้านเธอในตอนนี้ ซึ่งไม่มีใครคาดคิดเลย
"น้ำโอเคใช่ไหม"
"ค่ะ น้ำไม่เป็นไร พี่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะคะ"
"พี่ไม่รู้นะ ว่ามันมาทำไมแต่พี่อยากจะให้น้ำรู้เอาไว้นะ ว่าพี่หวังดีกับน้ำเสมอ"
"น้ำรู้ค่ะ และก็ไม่เปลี่ยนใจจากพี่แน่นอน"
"พี่ได้ยินอย่างนี้ค่อยชื่นใจขึ้นมาหน่อย "
"น้ำอยากจะให้ถึงวันที่เราจะออกทริปถ่ายภาพด้วยกันเร็วๆ จังเลยค่ะ"
"พี่ก็เหมือนกัน เต้นตื่นล่ะสิเรา"
"ค่ะ" น้ำยิ้มรับ
"มีความสุขกันจริงๆเลยนะ" ภูมิเดินเข้าไปหาคนทั้งคู่
"แล้วแกจะทำไม" ภพเอ่ยขึ้น
"ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่จะมาดูว่าคนเป็นแฟนกันใหม่ๆ เขาคุยอะไรกันบ้าง" พูดพลางจ้องหน้าน้ำไม่วางตา
"คู่ของเราคงจะไม่หวือหวาอะไรหรอก ก็แค่บอกรักกันทุกวัน ไม่ทำร้ายร่างกายและจิตใจซึ่งกันและกันแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว ใช่ไหมน้ำ" ภพยกยิ้มมุมปาก
"ใช่ค่ะ" ยื่นมือบางไปจับมือหนาเอาไว้แน่น
"งั้นก็ตามสบายนะ" ภูมิพยายามข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ข้างในแล้วเดินออกไป
ภพอยู่คุยกับน้ำสักพักชายหนุ่มก็ขอตัวกลับโดยที่เธอไปส่งชายหนุ่มถึงที่รถ ส่วนชายหนุ่มอีกคนยังไม่กลับ ร่างบางกำลังจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน ภูมิก็เดินตรงเข้ามาหาเธอพอดี น้ำจึงรีบเดินหนีชายหนุ่มไปอีกทาง แต่ชายหนุ่มก็เดินตามเธอไปติดๆ
"น้ำเดี๋ยวก่อน" ยื่นมือหนาไปคว้าแขนเรียวเอาไว้
"อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ!" น้ำรีบชักแขนกลับ
"ก็ได้ เธอจะคุยกับฉันดีๆ ไหมล่ะ"
"มีอะไรก็รีบๆ พูดมา เสร็จแล้วจะไปไหนก็ไป"
"เธอแน่ใจเหรอ ว่าเธอรักมันจริงๆ "
"แน่ใจสิ คนดีๆ อย่างพี่ภพใครไม่รักก็โง่เต็มทีแล้ว"
"แล้วฉันล่ะ เธอเคยคิดที่จะหันมามองบ้างไหม"
"คุณพูดอะไร" น้ำถามด้วยความแปลกใจ
"ฉันรู้ตัวดี ว่าที่ผ่านมาฉันไม่เคยแสดงความรู้สึกลึกๆ ที่ฉันมีต่อเธอออกมาเลย ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว ฉันชอบเธอ" พูดพลางมองใบหน้าเนียนด้วยความประหม่า
"หมายความว่ายังไง ฉันไม่เข้าใจ"
"ฉันรักเธอ ได้ยินไหม" รวบร่างบางเข้ามากอดไว้
"หึ คุณไม่ต้องมาล้อฉันเล่นหรอก เพราะว่ามันไม่ตลก" ผลักร่างหนาออกจากตัวแรงๆ
"ฉันไม่ได้ล้อเล่นฉันพูดจริงๆ ฉันรักเธอจริงๆนะ ฉันขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันเคยทำไม่ดีกับเธอด้วยก็แล้วกัน"
"เก็บคำขอโทษของคุณคืนไปเถอะ ฉันไม่ต้องการ ส่วนคำบอกรักของคุณก็ควรจะเก็บไว้ให้คนที่คุณรักเถอะ ไม่ใช่พูดพร่ำเพรื่อไปเรื่อยแบบนี้"
"ฉันรักเธอจริงๆ นะน้ำ ทำไมเธอถึงไม่เชื่อฉันเลย"
"เพราะฉันไม่ได้รักคุณยังไงล่ะ ฉันรักพี่ภพ ได้ยินชัดหรือยัง หรือว่าจะให้ฉันย้ำอีกครั้ง"
"ช่างเถอะ ถึงยังไงฉันก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอก"
"ฉันไม่รู้นะ ว่าคุณทำแบบนี้ไปทำไม คุณคิดเหรอว่าฉันจะรักคุณลง ถึงเราจะเคยมีอะไรกันก็ตาม แต่สำหรับคำว่ารักมันยังคงห่างไกลจากฉันเกินไป"
"แล้วทำไมกับมันเธอถึงรักได้ล่ะ"
"เพราะพี่ภพเขาไม่เคยทำให้ฉันเสียใจเลยยังไงล่ะ"
"เธอจะยกโทษให้ฉันไม่ได้เลยเหรอ" ภูมิถามด้วยความจุกในอก
"ไม่! คุณกลับไปเถอะ แล้วไม่ต้องมาเหยียบที่นี่อีก ระหว่างเราฉันขอให้มันจบลงแค่นี้"
"ก็ได้ฉันจะกลับ แต่ฉันอยากให้เธอรับรู้เอาไว้นะ ว่าตอนนี้ในหัวใจของฉันมีแค่เธอเพียงคนเดียวเท่านั้น" มองใบหน้าเนียนจนเต็มตาแล้วเดินห่างออกไป
น้ำมองตามหลังชายหนุ่มด้วยความสับสนภายในใจ รักอย่างนั้นเหรอมันไม่มีอะไรใกล้เคืองคำว่ารักเลย เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาภูมิไม่เคยจะทำดีหรือแสดงออกว่ารักเธอเลยสักครั้ง เจอกันทุกครั้งชายหนุ่มก็หวังแค่ได้เชยชมในเรือนร่างของเธอเท่านั้น พอเสร็จสมก็ต่างคนต่างไป เธอไม่มีวันหลงเชื่อลมปากของชายหนุ่มอย่างเด็ดขาด ในเมื่อเธอเลือกมี่จะเดินหน้าแล้วเธอจะไม่มีทางถอยหลังกลับอย่างเด็ดขาด
ด้านภูมิพอกลับถึงบ้านก็นั่งกระดกแก้วเหล้าลงคอแก้วแล้วแก้วเล่า เขารู้ว่าตนเองสารภาพความในใจกับน้ำช้าเกินไป หรือว่าต่อให้เร็วกว่านี้เธอก็คงจะไม่เชื่อเพราะสิ่งที่เขาทำกับเธอมันยากที่จะเกินให้อภัย เขาไม่เคยแสดงความรักต่อเธอเลยมีแต่ตักตวงความสุขจากตัวเธอเท่านั้น มันก็คงจะไม่แปลกที่เธอจะไม่เชื่อในตัวเขาเลย ยิ่งมีผู้ชายอีกคนมาให้เปรียบเทียบเขาคงจะไม่มีอะไรดีในสายตาของเธอเลย
"เป็นไง โดนหนูน้ำเขาตอกหน้ากลับมาล่ะสิท่า" บรรพตเอ่ยขึ้น
"ครับ เธอมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว"
"แล้วแกได้สารภาพรักเขาไปหรือยัง"
"ผมบอกเธอไปแล้วครับ แต่เธอไม่เชื่อผมเลย"
"ถ้าฉันเป็นหนูน้ำฉันก็ไม่เชื่อหรอก คนไม่เคยทำดีต่อกัน แต่อยู่ๆ มาบอกรักใครมันจะเชื่อลง"
"โธ่! คุณพ่ออย่ามาซ้ำเติมผมสิ"
"แล้วแกจะเอายังไงต่อ"
"ผมไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอก ถึงยังไงผมก็จะทำให้เธอใจอ่อนยอมรับรักจากผมให้ได้"
"ฉันว่างานนี้มันไม่ง่ายเลยนะ"
"แต่มันก็ไม่ยากเกินความสามารถของผมหรอกครับ ผมไม่เชื่อหรอกนะครับว่าน้ำจะรักไอ้หน้าจืดนั้นจริงๆ เพราะตลอดเวลาที่ผมได้ใกล้ชิดเธอผมมั่นใจว่าเธอก็มีใจให้ผมเหมือนกัน"
"ดูแกจะมั่นใจมากเลยนะ เอาเถอะ ฉันขอให้แกได้หัวใจของเขามาเร็วๆ ก็แล้วกัน"
"ครับ ผมก็หวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้น"
"ฉันขึ้นไปนอนก่อนนะ อย่าดื่มหนักมากนักล่ะ เดี๋ยวจะตื่นมาทำงานไม่ไหว"
"ครับ" กระดกเหล้าลงคอรวดเดียวจนหมดแก้ว
ภูมิพาร่างที่เริ่มจะมึนเมาไปล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้างภายในห้องนอนของตนเองด้วยความเคร่งเครียด ทุกคำพูดของน้ำยังคงก้องอยู่ในหัวของเขา ถึงเธอจะไม่อยากเจอหน้าเขาแต่เขาก็จะตามตื้อเธอไปทุกที่ จนเธอยอมเปิดใจให้เขา และรักเขาเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นภูมิมุ่งมั่นอยู่ในใจ
อีกฝากหนึ่งบนเตียงนุ่มน้ำกำลังนอนพลิกตัวไปมาเพราะนอนไม่หลับ เธออดที่จะนึกถึงคำบอกรักที่ออกมาจากปากของภูมิไม่ได้เลย คนอย่างเขานั้นเหรอจะรักใครเป็นนอกจากรักตัวเอง เธอไม่มีทางเชื่อคำพูดที่ออกมาจากปากของชายหนุ่มอย่างเด็ดขาด สลัดความคิดทิ้งแล้วข่มตาหลับลงสู่ห้วงนิทรา