บทที่ 159 ชีวิตกัวอี้นั้นช่างยากลำบาก
“คุณชาย แน่นอนว่าที่ท่านต้องทำคือส่งจินเสวี่ยเอ๋อร์ออกไปโดยเร็วที่สุด!” กัวอี้ไม่รู้ว่าเมิ่งฉีฮ่วนซึ่งปกติมักฉลาดมาก เหตุใดกลับทำท่าเหมือนคนโง่เขลาในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ได้
“แต่เราตกลงกันแล้วว่าข้าจะหาบ้านให้จินเสวี่ยเอ๋อร์หลังจากวันชุนเฟิง จากนั้นค่อยส่งนางออกไป” เมิ่งฉีฮ่วนมึนงงกับคำพูดของกัวอี้
หลังจากได้ยินเช่นนี้ กัวอี้ก็เงียบไปครู่หนึ่ง
เขาไม่มีภรรยา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง อย่างไรเขาก็อายุมากกว่าเมิ่งฉีฮ่วน ในแง่ของประสบการณ์ชีวิต เขาย่อมมีมากกว่าอีกฝ่าย “เช่นนั้น ตอนนี้ข้าแนะนำว่าคุณชายไม่ต้องทำอะไรเลย ปล่อยให้ฟูเหรินจัดการกับจินเสวี่ยเอ๋อร์ด้วยตัวเอง และเมื่อจำเป็น ท่านก็ต้องยืนหยัดเคียงข้างฟูเหริน!”
เมื่อพูดอย่างนั้น กัวอี้ก็ชี้ไปทางห้องครัว “เช่นปิดห้องครัวเสีย!”
หลังจากได้ยินเช่นนี้ เมิ่งฉีฮ่วนก็คิดอย่างรอบคอบและรู้สึกว่ามันถูกต้อง เขาจึงพยักหน้า “เช่นนั้นข้าก็เข้าใจแล้ว ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เจ้าก็สามารถกลับไปก่อนได้”
“…” กัวอี้มีเครื่องหมายคำถามบนใบหน้า “คุณชาย วันนี้ท่านเรียกหาข้ามาด้วยเรื่องนี้รึ?”
“มันไม่สำคัญหรือ?” เมิ่งฉีฮ่วนถาม
“มันก็สำคัญ…” กัวอี้รู้สึกหดหู่เล็กน้อย แต่ก็เตือนเขาว่า “ข้าไม่จำเป็นต้องตรวจสอบภูมิหลังของจินเสวี่ยเอ๋อจริง ๆ หรือ?”
“นางเป็นอนุของพี่ชายร่วมสาบานข้า มีอะไรให้ตรวจสอบกัน?” เมิ่งฉีฮ่วนยุ่งกับเรื่องของผู้หญิงสองคน ความฉลาดของเขาจึงมีไม่มากมาช่วงหนึ่งแล้ว
เมื่อกัวอี้เห็นเมิ่งฉีฮ่วนเป็นเช่นนี้ เขาก็กลอกตามองฟ้าแล้วถอนหายใจ
“คุณชาย หลังจากเหตุการณ์ในจวนขององค์รัชทายาท คนผู้นี้ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ก่อนจะปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน ท่านไม่คิดว่ามันน่าสงสัยสักหน่อยรึ?” กัวอี้วิเคราะห์อย่างรอบคอบ “อีกทั้งเรายังปล่อยข่าวไปเมื่อหลายปีก่อนด้วย พอได้ข่าว คนกลุ่มนั้นก็มาเยี่ยมชมหมู่บ้านอย่างละเอียด แล้วก็จากไปโดยไม่พบอะไรเลย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเรื่องจะจบแล้ว”
“เจ้าหมายความว่าคนพวกนั้นอาจจะส่งจินเสวี่ยเอ๋อร์มาที่นี่งั้นหรือ?” เมิ่งฉีฮ่วนเริ่มตื่นตัว “แต่ทำไมถึงทำเช่นนั้น?”
“ลัญจกรหยกเป็นสมบัติของชาติ ผู้คนที่ต้องการลัญจกรหยกอาจไม่ใช่ผู้ที่เหยียบย่ำจวนรัชทยาทในตอนนั้น” เมื่อเผชิญหน้ากับเมิ่งฉีฮ่วนซึ่งตอนนี้ความฉลาดหดหาย กัวอี้ทำได้เพียงอดทนและอดทน “เราต้องป้องกันมัน!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เมิ่งฉีฮ่วนก็พยักหน้าเล็กน้อย “แม้ก่อนที่พี่ชายร่วมสาบานจะเจออุบัติเหตุ จินเสวี่ยเอ๋อร์กับพี่ชายร่วมสาบานจะมีความรักลึกซึ้งต่อกัน แต่ในภายหลังก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกคนอื่นข่มขู่”
“ไม่ว่าจะถูกคุกคามหรือไม่ก็ตาม ข้าน้อยรู้สึกว่าต้องตรวจสอบภูมิหลังของจินเสวี่ยเอ๋อร์” กัวอี้พยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุดความฉลาดของคุณชายก็กลับมา “หลังจากเกิดอุบัติเหตุในจวนรัชทายาท ครอบครัวของผู้หญิงคนนั้นกลับยังสามารถรอดพ้นไปได้อย่างปลอดภัย มันยากที่จะอธิบายว่าทำไมนางถึงหนีออกจากเมืองหลวงและไปอาศัยอยู่ในอำเภอหยวนซานอันห่างไกลได้”
“เจ้าพูดถูก” ในที่สุด เมิ่งฉีฮ่วนก็ฟื้นคืนความฉลาดของเขากลับมา “เหตุผลที่นางมาที่นี่คงไม่ง่ายดายเหมือนกับการมาดูแลเด็กทั้งสองคน …เจ้าไปตรวจสอบจวนจี้ในเมืองหลวง จู่ ๆ วันนี้จินเสวี่ยเอ๋อร์ก็กล่าวถึงจี้ซินเยว่กับข้า ข้ามักจะรู้สึกว่ามันไม่ธรรมดา”
“ขอรับ!”
หลังจากที่เรื่องนี้กระจ่างแล้ว เมิ่งฉีฮ่วนก็รู้ว่าเขาควรทำอะไร ดังนั้นเขาจึงกลับไปนอนอย่างสงบ
เช้าวันรุ่งขึ้น ก่อนที่หลี่เยว่หานจะตื่นขึ้น เมิ่งฉีฮ่วนก็ตื่นขึ้นก่อน
ขณะนี้เพิ่งรุ่งสาง เมิ่งฉีฮ่วนรู้สึกว่าทุกคนควรนอนหลับกันอยู่ แต่เขาไม่คาดว่าชั่วขณะที่ตนเดินออกมาจากลานด้านในจะได้เห็นจินเสวี่ยเอ๋อร์กวาดสนามหญ้าด้วยไม้กวาด ชายหนุ่มจึงอดไม่ได้ที่จะตะลึงเล็กน้อย
นางมาทำอะไรตั้งแต่เช้าตรู่ขนาดนี้?
“เมิ่งหลาง เจ้าตื่นแล้วหรือ” จินเสวี่ยเอ๋อร์ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว จึงหันกลับไปและเห็นเมิ่งฉีฮ่วนยืนอยู่ที่ประตูลานด้านใน นางพลันทักทายด้วยรอยยิ้ม “ข้าคิดว่าวันนี้เป็นวันแรกที่ข้าอยู่ที่นี่ จึงไม่อยากก่อความเดือดร้อนอะไร ข้าตื่นเช้า เลยคิดจะต้มน้ำร้อนให้พวกเจ้าอาบ แต่…”
ขณะที่พูด นางก็มองไปที่ห้องครัวซึ่งถูกปิดด้วยความเขินอาย “ข้ารู้ว่าแม่นางหลี่ไม่พอใจข้า แต่การปิดห้องครัว…”
“ข้าปิดมันไว้เอง” เมิ่งฉีฮ่วนจำคำเตือนของกัวอี้เมื่อคืนนี้ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นให้ยืนหยัดเคียงข้างหลี่เยว่หาน
“อา…” จินเสวี่ยเอ๋อร์ไม่คิดว่าเมิ่งฉีฮ่วนจะเป็นคนปิดห้องครัว นางประหลาดใจไปครู่หนึ่ง “เจ้า… เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ?”
“พี่สะใภ้ อย่าเข้าใจข้าผิด” เมิ่งฉีฮ่วนพูดอย่างไร้ความรู้สึก “ทุกอย่างในครัวเป็นสมบัติของเยว่หาน และนางรังเกียจท่านมาก ข้าจึงปิดไว้เพราะกลัวนางจะโกรธ พี่สะใภ้ก็อย่าถือสาอะไรเลยนะ”
หลังจากพูดอย่างนั้น เมิ่งฉีฮ่วนก็ไม่รอช้า ปลดกลอนประตูและเข้าไปในห้องครัว
เมื่อเห็นอย่างนี้ จินเสวี่ยเอ๋อร์ก็อยากจะตามเข้าไปด้วย แต่เมิ่งฉีฮ่วนก็หยุดนางไว้ “พี่สะใภ้ ท่านไม่ได้กำลังทำความสะอาดลานหรือ? ทำความสะอาดลานไปก่อนเถอะ เมื่อวานข้าทำข้อตกลงกับเยว่หานแล้ว ท่านไม่ต้องห่วงเรื่องครัว ข้าจะต้มน้ำร้อนเอง”
หลังจากพูดอย่างนั้น ก่อนที่จินเสวี่ยเออร์จะพูดอะไร เมิ่งฉีฮ่วนก็ปิดประตูห้องครัว
เมื่อได้ยินเสียงลงกลอนประตูอย่างชัดเจน ใบหน้าของจินเสวี่ยเอ๋อร์ก็เปลี่ยนเป็นสีเขียว!
ระวังนางรึ! ถ้าเช่นนั้นก็อย่าโทษนางที่ลงมือ!
ครั้นนึกถึงสิ่งนี้ รอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าของจินเสวี่ยเอ๋อร์ นางไม่หงุดหงิดอีกและกลับไปกวาดลานอย่างเชื่อฟัง
ในห้องครัว เมิ่งฉีฮ่วนพบไหใหม่สำหรับหมูตุ๋นที่เคี่ยวทั้งคืน เขาใส่น้ำเกลือทั้งหมดกลับเข้าไปในไห ล้างหม้อ จากนั้นก็เริ่มต้มน้ำร้อน
หลี่เยว่หานไม่เคยหลบเมิ่งฉีฮ่วนยามทำหมูตุ๋น ดังนั้นชายหนุ่มจึงรู้วิธีจัดการกับมัน
หลังจากย้ายเนื้อตุ๋นและน้ำเกลือไปที่ห้องเก็บสุราใต้ดิน เมิ่งฉีฮ่วนก็ปิดประตูห้องเก็บสุรา ก่อนจะได้ยินเสียงของหลี่เยว่หานดังมาจากนอกห้องครัว
“เมิ่งฉีฮ่วน เจ้าป่วยรึ! ทำไมเจ้าถึงปิดประตูห้องครัวเวลากลางวันแสก ๆ?” น้ำเสียงของหลี่เยว่หานยังคงเต็มไปด้วยความโกรธ
เมิ่งฉีฮ่วนไม่กล้ารอช้า เขาเปิดประตูอย่างรวดเร็ว
“แม่นางหลี่ อย่าโทษเมิ่งหลางเลย เขาบอกว่าทุกอย่างในครัวเป็นสมบัติของเจ้า เขาจึงปิดประตูเพราะกลัวว่าข้าจะไม่ระมัดระวังแล้วทำลายบางอย่างไป” เสียงของจินเสวี่ยเอ๋อร์ดังขึ้น
หลี่เยว่หานกำลังเคาะประตู ทว่าเมื่อได้ยินจินเสวี่ยเอ๋อร์เป็นฝ่ายเสนอตัวปกป้องเมิ่งฉีฮ่วน เธอก็พลันอารมณ์ไม่ดีตั้งแต่เช้า
แต่หญิงสาวไม่ได้แสดงออกทางสีหน้าเลย เธอทักทายจินเสวี่ยเอ๋อร์อย่างกระตือรือร้น “พี่สะใภ้พูดแล้ว ข้าจะไม่ตำหนิสามีของข้าก็แล้วกัน พี่สะใภ้ ท่านขยันนัก ท่านตื่นตั้งแต่เช้าและทั้งลานก็ถูกทำความสะอาดหมดแล้ว”
หลังจากได้ยินสิ่งที่นางพูด จินเสวี่ยเอ๋อร์ก็ยิ้ม ขณะนางกำลังจะบอกว่าตนสมควรทำอยู่แล้ว หลี่เยว่หานก็พูดอีกครั้ง “ที่ตักขยะอยู่ตรงนั้น เหลือแค่ทิ้งขยะลงแม่น้ำไป ตอนนี้พี่สะใภ้คงกำลังยุ่ง ดังนั้นข้าจะไม่รบกวนท่านแล้ว”
เมิ่งฉีฮ่วนซึ่งอยู่ที่ประตูได้ยินคำพูดของหลี่เยว่หาน เขารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่ารักมากขึ้นเรื่อย ๆ ชายหนุ่มเปิดประตูห้องครัวแล้วพูดเบา ๆ “เยว่หาน เจ้าตื่นแล้วรึ ข้าต้มน้ำร้อนเสร็จแล้ว เจ้ารีบไปอาบเถอะ”
“สามีของข้าช่างแสนดีนัก” หลี่เยว่หานยิ้มพลางสัมผัสใบหน้าของเมิ่งฉีฮ่วน จากนั้นจึงเข้าไปในครัว
เมื่อเห็นท่าทางรักใคร่ของทั้งสองคน จินเสวี่ยเอ๋อร์ก็อดที่จะลอบกัดฟันไม่ได้ นางจะปล่อยให้หลี่เยว่หานอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว นางต้องคิดหาทาง!
MANGA DISCUSSION