บทที่ 147 หลี่หรงหรงที่แปลกไป
“หลี่หรงหรง ถ้าเจ้าได้รับโอกาสให้เลือก เจ้าจะยังยั่วยวนหลิ่วจื้อหย่วนในตอนนั้นอีกหรือไม่?” จู่ ๆ หลี่เยว่หานก็พูดขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
หลี่หรงหรงตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหน้า “ไม่ ข้าจะเคารพหลิ่วจื้อหย่วนในฐานะพี่เขย ข้าจะไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นอีก!”
หลังจากได้ยินเช่นนี้ หลี่เยว่หานก็คล้ายจะพูดบางอย่าง ทว่าดวงตาของเธอกลับพร่ามัว ราวกับในหัวมีความทรงจำบางอย่างกำลังค่อย ๆ ฟื้นคืนมา
มันควรจะเป็นความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม
ในความทรงจำ เจ้าร่างของเดิมเห็นหลี่หรงหรงอยู่กับหลิ่วจื้อหย่วนเป็นครั้งแรก และเมื่อนางถามว่าทำไมหลี่หรงหรงถึงทำเช่นนี้ หลี่หรงหรงก็พูดอย่างหยิ่งยโสว่าหลี่เยว่หานไม่ดีพอสำหรับหลิ่วจื้อหย่วน
“เจ้ามิใช่เคยคิดว่าข้าไม่ดีพอสำหรับหลิ่วจื้อหย่วนรึ?” แม้หลี่เยว่หานจะสงสัยว่าทำไมจู่ ๆ ความทรงจำของเธอจึงฟื้นคืน แต่หญิงสาวก็ไม่ได้แสดงท่าทางใดออกมา
หลังจากได้ยินคำพูดของหลี่เยว่หานแล้ว หลี่หรงหรงก็คุกเข่าลงให้หญิงสาวอีกครั้งด้วยใบหน้าโศกเศร้า “พี่สาว ข้ารู้ว่าข้าผิด ข้ารู้ว่าข้าผิดไปแล้ว! แม่ของเราเป็นคนบังคับข้าให้ทำเช่นนี้ นางบอกว่าตราบใดที่ข้าแย่งสัญญาแต่งงานกับตระกูลหลิ่วมาจากเจ้าได้ ครอบครัวของเราจะไม่ต้องกังวลไปตลอดชีวิต ข้ายังเด็ก ข้ายังไม่รู้เรื่องอะไรนัก ท่านแม่เป็นคนตัดสินใจ!”
เมื่อเห็นว่าหลี่หรงหรงกล่าวโทษหวังเฟิ่ง เพียงเท่านี้ หลี่เยว่หานก็คิดว่าจะไม่ถามต่ออีก
หากถาม หลี่หรงหรงก็จะทำให้ตัวนางสะอาดมากขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น
“ดูแลตัวเองดี ๆ แม้ข้าจะเป็นลูกสาวบุญธรรมของตระกูลหลิ่ว แต่ก็มีแค่ชื่อเท่านั้น ในจวนหลังนี้ เจ้ายังคงต้องพึ่งพาตัวเอง” หลังจากที่หลี่เยว่หานพูดจบ เธอก็กำลังจะลุกขึ้นจากไป
“พี่สาว เจ้ายกโทษให้ข้าหรือยัง?” หลี่หรงหรงยังคงคุกเข่าอยู่บนพื้น พลางมองหลี่เยว่หานอย่างน่าเวทนา
“ยกโทษให้เจ้า?” หลี่เยว่หานยิ้ม “ข้าไม่เคยเก็บเจ้ามาใส่ใจด้วยซ้ำ”
หลังจากพูดจบ หลี่เยว่หานก็คิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหยิบเงินก้อนเล็ก ๆ ออกมาวางบนโต๊ะของหลี่หรงหรง และพูดว่า “เงินสองตำลึงนี้ถือว่าเป็นของขวัญจากป้าอย่างข้าที่มอบให้กับเด็กในครรภ์ของเจ้า เจ้าจะเป็นแม่คนแล้ว ควรแยกแยะถูกผิดด้วยตัวเองในอนาคต เลิกหลอกใช้คนอื่น”
หลี่หรงหรงดูเหมือนจะไม่คาดว่าหลี่เยว่หานจะให้เงิน ดังนั้นนางจึงอดไม่ได้ที่จะตะลึง “พี่สาว เจ้า…”
“อย่าให้หวังเฟิ่งเอาไปอีก ข้าจะให้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น และจะไม่มีครั้งต่อไป” ในขณะที่พูด หลี่เยว่หานก็เปิดประตูออกไป หลี่หรงหรงกลัวว่าคนอื่นจะเห็นนางคุกเข่า ดังนั้นจึงรีบลุกขึ้นยืน
เมื่อมองแผ่นหลังของหลี่เยว่หานที่จากไป ด้วยเหตุผลบางอย่าง ดวงตาของหลี่หรงหรงก็รู้สึกร้อนผ่าวเล็กน้อย
หลังจากออกจากลานเล็ก ๆ ในเรือนของหลี่หรงหรงแล้ว หลี่เยว่หานก็หยุดเดินชั่วขณะ หญิงสาวทบทวนว่าที่เธอมอบเงินสองตำลึงให้หลี่หรงหรงเป็นเรื่องที่โง่งมหรือไม่? เพราะในอดีตหลี่หรงหรงรังแกเจ้าของร่างเดิมไว้มากถึงเพียงนั้น?!
“ข้าคิดว่าเจ้าจากไปแล้วเสียอีก” เสียงผู้หญิงดังมาจากหลังหิน และในทันใด หวังเหอฮวาก็เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าของนาง และจับมือของหลี่เยว่หานไว้อย่างสนิทสนม “เจ้ายังไม่ไปก็ดี ไปพูดคุยกับข้าสักหน่อยเป็นอย่างไร?”
หลังจากได้ยินเช่นนี้ หลี่เยว่หานก็ดึงมือออกจากมือของหวังเหอฮวา ใบหน้าของเธอเย็นชา “ข้าคิดว่าข้าไม่มีอะไรจะคุยกับเจ้า”
“ทำไม? วันนี้เจ้าไม่ได้มาที่จวนหลิ่วเพื่อร่วมมือกับข้ารึ?” หวังเหอฮวาพูดด้วยใบหน้ามุ่งมั่น
“ข้าจะไปร่วมมืออันใดกับเจ้าได้?” หลี่เยว่หานชำเลืองมองหวังเหอฮวาและกำลังจะจากไป ทว่ากลับถูกหยุดเอาไว้โดยอีกฝ่าย
“ไม่ต้องกังวล ตราบใดที่เจ้าช่วยให้ข้าได้นั่งในตำแหน่งหลิ่วฟู่เหรินน้อยได้ ข้าย่อมมอบประโยชน์ให้กับเจ้า ตอนที่เจ้าขอให้ใครบางคนส่งซีอิ๊วมาให้ตระกูลหลิ่ว ข้าได้แนะนำให้นายท่านหลิ่วส่งมันไปที่ร้านขายซีอิ๊วของตระกูลหลิ่วเพื่อทดลองขายมันดู”
“งั้นหรือ?” หลี่เยว่หานถามอย่างไร้ความรู้สึก “เป็นไปได้หรือไม่ว่านี่คือผลประโยชน์ที่เจ้าจะให้ข้า แลกกับให้ข้าช่วยเจ้านั่งในตำแหน่งหลิ่วฟูเหรินน้อย?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หวังเหอฮวาก็คิดว่าอีกฝ่ายจะตกลงจึงทำท่าสนิทสนมกับหลี่เยว่หานยิ่งกว่าเดิม “แน่นอนว่าไม่เพียงเท่านั้น ตราบใดที่ข้ากลายเป็นหลิ่วฟูเหรินน้อย น้องสาวที่รกหูรกตาของเจ้า ข้าจะช่วยกำจัดเอง”
“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าในสายตาข้า หลี่หรงหรงรกหูรกตามากกว่าเจ้า?” หลี่เยว่หานมองหวังเหอฮวาด้วยสีหน้ากึ่งยิ้มกึ่งบึ้ง “ของของข้าสามารถขายได้ทุกที่ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องร่วมมือกับเจ้าในการทำสิ่งที่น่ารังเกียจเช่นนั้น”
หลังจากพูดจบ หลี่เยว่หานก็หันหลังเดินจากไป
หวังเหอฮวากระวนกระวายทันที “หลี่เยว่หาน! ถ้าเจ้าไม่ช่วยให้ข้าได้นั่งในตำแหน่งหลิ่วฟูเหรินน้อย ข้าจะให้พี่เมิ่งหย่ากับเจ้า!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลี่เยว่หานก็เพียงรู้สึกว่าช่างน่าตลกและไม่ตอบอะไรกลับไป เธอเดินตรงไปที่ประตูจวนหลิ่ว
ใครจะไปรู้ว่าจู่ ๆ หลิ่วจื้อหย่วนก็รีบวิ่งออกมาจากทางลาดชัน และขวางทางหลี่เยว่หานไว้ “ข้าก็คิดอยู่ว่าทำไมเจ้าถึงมาเยี่ยมกะทันหัน ที่แท้เจ้ายังจ้องตำแหน่งหลิ่วฟูเหรินน้อยอยู่นี่เอง หลี่เยว่หาน ข้าจะบอกเจ้าให้นะว่า ชีวิตนี้เจ้าไม่สามารถแต่งเข้าตระกูลหลิ่วของข้าได้!”
ครั้นได้ยินเช่นนี้ หลี่เยว่หานก็มองหลิ่วจื้อหย่วนด้วยท่าทางเหมือนมองคนโง่และพูดว่า “เจ้าไม่ได้ยินที่หวังเหอฮวาพูดเมื่อครู่รึ? หรือได้ยินแล้ว แต่ก็ยังแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน? หวังเหอฮวาต้องการเป็นฟูเหรินของเจ้า ไม่ใช่ข้า หลี่เยว่หาน!”
“ฮึ่ม! คิดว่าข้าไม่รู้ความคิดเพ้อฝันของเจ้าหรือ!” หลิ่วจื้อหย่วนพูดอย่างเย่อหยิ่ง “เหอฮวาขี้อายนัก เจ้าต้องหลอกใช้นางแน่!”
หลี่เยว่หานขี้เกียจเกินกว่าจะมาโต้เถียงกับคนโง่เขลา ดังนั้นเธอจึงได้แต่โบกมือ “ไม่ว่าเจ้าจะคิดอย่างไร วันนี้ข้าก็มาที่นี่เพื่อขอบคุณพ่อบุญธรรม แม่บุญธรรม และท่านปู่เท่านั้น ไม่ได้มาเพื่อเอาใจใครต่อหน้าเจ้า ข้าคิดว่าพวกเขาน่าจะกำลังพักผ่อนยามบ่ายกันอยู่ เช่นนั้นช่วยบอกพวกเขาแทนข้าที ว่าข้าขอกลับก่อน ว่าง ๆ ข้าจะมาเยี่ยมพวกเขาอีกครั้ง”
หลังจากพูดจบ หลี่เยว่หานก็ยื่นมือออกมาและผลักหลิ่วจื้อหย่วนไปด้านข้าง พร้อมจากไปด้วยตัวเอง
“เจ้ายังจะกล้ามาอีก!” หลังหลี่เยว่หานจากไป หลิ่วจื้อหย่วนกระทืบเท้าพลางสาปแช่ง “ถ้าครั้งหน้าเจ้ากลับมาอีก ข้าจะเตะเจ้าออกไปแน่!”
หลี่เยว่หานทำเป็นไม่ได้ยิน
หลังจากออกจากจวนหลิ่วแล้ว เธอก็เดินดูรอบ ๆ อำเภอ เป็นอย่างที่เมิ่งฉีฮ่วนพูดไว้ หลังจากหิมะตกหนัก หลายวันมานี้ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ออกมาจับจ่ายซื้อของในอำเภอ
สุดท้ายหลี่เยว่หานก็ไม่ได้ซื้ออะไร และจ้างรถม้ากลับไปที่หมู่บ้านไป๋อวิ๋น
ตอนนี้เธอรวยมาก ไม่ต้องนั่งเกวียนให้ลมหนาวพัดใส่แล้ว
แต่หญิงสาวไม่ต้องการโอ้อวดมากเกินไป ดังนั้นเธอจึงลงจากรถม้าที่ทางเข้าหมู่บ้าน และเดินเท้าเข้าไปในหมู่บ้านแทน
ขณะกำลังกลับบ้าน หลี่เยว่หานก็เห็นกลุ่มคนรวมตัวกันรอบประตูเพื่อดูความตื่นเต้น เธออดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว และรีบเดินเข้าไปหา
“ทุกคนมาดูเร็ว โอ๊ย! ข้าอายุปูนนี้ ในที่สุดก็อุตส่าห์ตั้งท้องได้!” ทำไมเป็นหวังเฟิ่งอีกแล้ว!
หลี่เยว่หานขมวดคิ้วและมองเข้าไปข้างใน ก่อนจะเห็นมู่ชวนยืนอยู่ที่ประตูบ้านด้วยใบหน้าเคร่งขรึม และหลิงซีถูกปกป้องอยู่ข้างหลังของเขา เด็กหญิงโผล่หัวออกมาจากหลังเด็กชายครึ่งหนึ่ง ส่วนหวังเฟิ่งนั่งอยู่ที่ประตูบ้านเมิ่งพลางร้องไห้ระงม
“สวรรค์เอ๋ย! มีเด็กสารเลวแบบนี้ได้ยังไง! ข้า หวังเฟิ่ง มีชีวิตที่น่าสมเพชนัก ข้าเพิ่งเดินผ่านบ้านเมิ่ง แต่จู่ ๆ เมิ่งมู่ชวน เจ้าเด็กสารเลวคนนั้นก็พุ่งเข้ามาผลักข้าจนล้มลง สวรรค์เมตตาด้วย! ร่างกายของข้ามีเด็กอยู่ ข้าจะเป็นหรือตายก็ไม่สำคัญหรอก แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับลูกในท้องของข้า ครอบครัวหลี่ของข้าก็จะไม่มีใครสืบทอด!”
MANGA DISCUSSION