บทที่ 161 คนที่เฝ้ารอ
หลี่เฟยฮวาได้วาดแบบแปลนออกมาในระหว่างนั้น แต่ในช่วงไม่กี่วันนี้เธอยุ่งอยู่กับการควบคุมโดรน เทคโนโลยีหลักยังไม่ได้ผลิต ตอนนี้วัสดุพื้นฐานมาถึงแล้ว เธอจึงไม่จำเป็นต้องรีบร้อนมากนัก
ต่อไปยังต้องส่งเสบียงเข้าไปอีก ดังนั้นยิ่งมีโดรนมากก็ยิ่งดี
นอกจากหลี่เฟยฮวาแล้ว มีเพียงม่อชงอวี้เท่านั้นที่เข้าใจอุปกรณ์หลักได้อย่างลึกซึ้ง แต่ในตอนนี้สุขภาพของเขาย่ำแย่ หลังจากจากไปเมื่อสามวันก่อนก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาอีกเลย
แม้หลี่เฟยฮวาจะเป็นห่วงสุขภาพของอาจารย์ม่อ แต่เธอก็ไม่มีเวลาที่จะวอกแวกหรือเสียสมาธิ อุปกรณ์หลักอาจไม่ได้ยากเกินความสามารถของเธอ แต่การสร้างมันต้องใช้ทั้งเวลาและพลังงานมหาศาล
หลังจากที่หลี่เฟยฮวาเร่งสร้างโดรนจำนวน 18 ลำจนเสร็จสิ้น เธอก็รู้สึกเหนื่อยล้าจนตาพร่ามัว แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ไม่กล้าหยุดพักแม้แต่น้อย ยังคงเร่งสอนคนใหม่ให้เข้าใจวิธีการใช้งานต่อ
โดรนเหล่านี้เสียหายและระเบิดได้ง่าย หากเป็นความเสียหายปกติ บางครั้งยังสามารถซ่อมแซมได้ แต่หากเกิดการระเบิดขึ้น โดรนอาจตกกระจายหายไปโดยไม่อาจกู้คืนกลับมา
สำหรับหลี่เฟยฮวา การมีโดรนจำนวนมากย่อมดีกว่า เพราะช่วยเพิ่มโอกาสในการขนส่งและค้นหาได้มากขึ้น ขณะเดียวกัน ทีมกู้ภัยที่เร่งขุดดินโคลนถล่มก็ได้รับการสนับสนุนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ในที่สุด ความพยายามของพวกเขาก็สัมฤทธิ์ผล ทีมกู้ภัยสามารถขุดทะลุพื้นที่ดินโคลนถล่มได้เร็วกว่ากำหนดถึงสี่วันเต็ม
ทันทีที่เส้นทางถูกเปิดออก เสียงโห่ร้องด้วยความยินดีดังกึกก้องไปทั่ว ทุกคนต่างเต็มไปด้วยความหวังอีกครั้ง โดยไม่รอช้า พวกเขาส่งคนขึ้นไปบนภูเขาเพื่อตามหาผู้รอดชีวิตทันที
หากเป็นเมื่อครึ่งเดือนก่อน หลี่เฟยฮวาคงจะไปแน่นอน แต่ในช่วงครึ่งเดือนนี้เธอก็เหนื่อยล้าทั้งกายและใจ การนอนวันละหนึ่งถึงสองชั่วโมงเป็นเรื่องปกติ ไม่กี่วันมานี้เธอถึงกับมีอาการหูแว่วด้วยซ้ำ
เธอรู้ว่าตัวเองควรพักผ่อนแล้ว หลังจากบอกลาซุนหลงเหยาก็เตรียมตัวจะออกไป
ใครจะรู้ว่าภรรยาทหารที่กำลังจะขึ้นเขาด้วยกันเห็นแล้ว ก็เอ่ยสอนขึ้นมาว่า “สหายหลี่ อย่างน้อยสามีของเธอก็ติดอยู่บนเขามาครึ่งเดือนแล้ว ถ้าเขาเห็นเธอคงจะดีใจมากแน่ ๆ ”
หลี่เฟยฮวาเหนื่อยจนแทบไม่มีแรงโต้แย้ง
กลับเป็นซุนหลงเหยาที่พูดแทนหลานสาวตนเอง
“หลี่เฟยฮวาเองก็ไม่ได้พักผ่อนดีมาครึ่งเดือนแล้ว จะเจอกันเมื่อไหร่ก็ได้ ทำไมต้องขึ้นไปบนเขาถึงจะมีความรู้สึกเป็นพิธีการด้วย? ถ้าเป็นลูกผู้ชายจริง ๆ แล้วห่วงใยเมียของตัวเอง ก็ไม่ควรมีความคิดแบบนี้”
หลี่เฟยฮวาส่งสายตาขอบคุณให้ซุนหลงเหยา ใบหน้าซีดเซียวนั้นทำให้เขายิ่งรู้สึกโกรธ
พูดจบ ซุนหลงเหยามองใบหน้าซีดขาวของหลี่เฟยฮวาด้วยความเป็นห่วง รีบพูดว่า “หลี่เฟยฮวา เธอไปพักผ่อนก่อนเถอะ”
หลี่เฟยฮวา่พยักหน้า ก่อนจะไปเธอมองภรรยาทหารที่พูดจาแดกดันเธอ
ภรรยาทหารคนนี้เธอจำได้ เป็นคนที่อยู่ห้องเดียวกับเธอและร้องไห้ทุกวันคนนั้น
หลี่เฟยฮวาอ้าปากจะพูด แต่เหนื่อยจนพูดอะไรไม่ออก สุดท้ายก็ถอนหายใจเบา ๆ แล้วเดินโซเซกลับไปที่เต็นท์
ภรรยาทหารคนนั้นดูเหมือนจะรู้สึกว่าตัวเองถูกละเลย จึงกลอกตาอย่างไม่พอใจ หลี่เฟยฮวามองไม่เห็น แต่ไม่ได้หมายความว่าซุนหลงเหยาจะมองไม่เห็น
ซุนหลงเหยาขมวดคิ้ว “เธอมีท่าทีแบบนี้ได้อย่างไร! พวกเธอได้พักผ่อนอย่างสบาย ๆ ที่นี่หลายวันแล้ว รู้ว่าสามีของตัวเองปลอดภัยดีก็กินดื่มสนุกสนาน โดรนนั้นเป็นสิ่งที่เด็กสาวคนนั้นออกแบบขึ้นมา ครึ่งเดือนที่ผ่านมาเธอเหนื่อยยิ่งกว่าใคร ๆ ฉันบอกให้รู้ไว้เลยนะ ชีวิตของสามีพวกเธอล้วนเป็นเขาที่ช่วยเอาไว้ พวกเธอมีหน้าอะไรมาทำกิริยาแบบนี้กับเธอ!”
แต่ก่อนซุนหลงเหยาพูดจาสุภาพกับทุกคน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพูดกับคนนอกอย่างไม่สุภาพเช่นนี้
ภรรยาทหารที่เดิมกลอกตาตกใจ อยากจะโต้แย้งแต่ก็โต้แย้งไม่ออก สุดท้ายจึงได้แต่หางจุกตูดเงียบไป
ในฐานะผู้นำ เขาแน่นอนว่าต้องขึ้นเขาไปรับคนด้วย
เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทาง ทีมกู้ภัยที่มุ่งหน้าขึ้นเขาจึงเรียงแถวยาวเป็นขบวนอย่างเป็นระเบียบ ด้วยตำแหน่งที่หลี่เฟยฮวาระบุตำแหน่งไว้ พวกเขาไม่จำเป็นต้องเสียเวลาค้นหาแบบสะเปะสะปะเหมือนแมลงวันไร้หัว ทำให้การค้นหาประหยัดเวลาไปได้มาก
วันนั้นอากาศแจ่มใส ท้องฟ้าโปร่ง เส้นทางขึ้นเขาที่เคยเต็มไปด้วยโคลนตมจากฝนก่อนหน้านี้ก็แห้งลงอย่างมาก ทำให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น
เมื่อทีมกู้ภัยไปถึงจุดหมาย พวกเขาพบหวงหมิงลู่และกลุ่มชาวบ้านที่รอดชีวิต บรรยากาศดูผ่อนคลายขึ้นเมื่อเห็นผู้หญิงหลายคนกำลังตากเสื้อผ้าอยู่ด้านนอก
หวงหมิงลู่เห็นซุนหลงเหยาตั้งแต่แรก รู้ว่าพวกเขาได้รับการช่วยเหลือแล้ว จึงรีบทำความเคารพเขา จากนั้นสายตาก็ไปตกอยู่กับฝูงชนอย่างไม่หยุดหย่อน
สายตาของหวงหมิงลู่กำลังมองหาใครบางคน ซุนหลงเหยารู้ดีว่าสายตานั้นกำลังมองหาใคร
“หลี่เฟยฮวาไม่ได้พักผ่อนเลยในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา วันนี้หลังจากขุดอุโมงค์เสร็จ ฉันเห็นว่าสีหน้าเธอแย่มาก จึงให้เธอไปพักก่อน”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หวงหมิงู่รีบถามทันที “เธอเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ?”
“วางใจเถอะ แค่เหนื่อยเท่านั้น เป็นฉันเองที่ไม่ให้เธอมา”
แต่หวงหมิงลู่กลับพูดว่า “บนภูเขาอันตรายอยู่แล้ว ร่างกายของหลี่เฟยฮวาไม่แข็งแรง ระหว่างทางอาจจะทนไม่ไหว พักผ่อนให้ดีที่เชิงเขาจะดีกว่าครับ”
เมื่อครู่ที่เขาพยายามมองหาว่าหลี่เฟยฮวามาหรือไม่ ไม่ใช่เพราะเหตุผลอื่น แต่เป็นเพราะเขากังวลว่าเธอจะตามมาด้วย
หลังจากหวงหมิงลู่พูดไปสองประโยค เขาก็รายงานสถานการณ์ในพื้นที่ให้ผู้บังคับการฟัง
“ในระหว่างนี้มีชาวบ้านสองคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มีเด็กอายุสามขวบคนหนึ่งมีไข้สูง แต่โชคดีที่เครื่องอุปโภคบริโภคมาทันเวลา ตอนนี้ทุกคนปลอดภัยดี”
ซุนหลงเหยาพยักหน้าอย่างพอใจ “ต้องขอบคุณโดรนที่หลี่เฟยฮวาประดิษฐ์ขึ้นมา”
หวงหมิงลู่รู้สึกภูมิใจ “หลี่เฟยฮวา เก่งมากจริง ๆ ”
ซุนหลงเหยายิ้ม “นายก็เก่งเหมือนกัน ถ้าไม่ใช่เพราะนายค้นพบร่องรอยของดินโคลนถล่มได้ทันเวลา ฉันคงต้องเขียนรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว”
หวงหมิงลู่ไม่ได้พูดอะไรต่อ
ตอนนี้เขาอยากกลับมาก อยากรีบลงเขาไปดูภรรยาของเขา
โชคดีที่หลังจากจัดการเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็ออกเดินทางอย่างรวดเร็ว การขึ้นเขานั้นง่าย แต่การลงเขากลับยากกว่ามาก กว่าพวกเขาจะถึงเชิงเขา ท้องฟ้าก็มืดลงแล้ว และเริ่มมีหิมะตก
เมื่อหวงหมิงลู่มองดูเทือกเขาที่ปกคลุมด้วยสีขาว เขา รู้สึกโล่งใจ ดีที่ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ไม่อย่างนั้นแม้จะมีเสบียง หิมะที่ตกหนักแบบนี้อาจทำให้เกิดภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำได้
หลังจากลงเขา หวงหมิงลู่ยังไม่สามารถพักผ่อนได้ทันที ซุนหลงเหยาให้ทุกคนไปประชุมกะทันหัน เพื่อเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครึ่งเดือนก่อนอย่างคร่าว ๆ
เมื่อหวงหมิงลู่รายงานเสร็จและกลับมา หลี่เฟยฮวาก็ตื่นแล้ว
เมื่อรู้ว่าหวงหมิงลู่กลับมาแล้ว หลี่เฟยฮวาก็เผยรอยยิ้มตื่นเต้นออกมาทันที เธอลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว แต่พอก้าวลงยืน ข้างหน้ากลับมืดมิดไปชั่วขณะ โชคดีที่อาการดังกล่าวหายไปในเวลาไม่นาน
ไม่นานนัก หวงหมิงลู่ก็เดินเข้ามาในห้อง เห็นหลี่เฟยฮวานั่งก้มหน้าอยู่บนเตียง ใบหน้าของเธอที่แม้จะเพิ่งตื่น แต่ยังคงซีดเซียวจนเขารู้สึกกังวล
“หลี่เฟยฮวา เธอไม่สบายหรือเปล่า?” เขาถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย
หลี่เฟยฮวาเงยหน้าขึ้นทันที เมื่อเห็นหวงหมิงลู่ที่ดูผอมลงกว่าเดิม เธอชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนที่ดวงตาจะเริ่มแดงก่ำ และน้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่ทันได้พูดอะไร
“หวงหมิงลู่…” เธอเรียกชื่อเขา น้ำเสียงเต็มไปด้วยอารมณ์ที่อัดแน่นอยู่ในใจ
“อืม ฉันอยู่นี่”
“หวงหมิงลู่…”
“อืม”
“หวงหมิงลู่…”
หวงหมิงลู่เงียบไปครู่หนึ่ง “…”
หลี่เฟยฮวาเห็นเขาไม่ตอบอะไรจึงลุกขึ้นเดินไปหา มือเล็กของเธอคว้าชายเสื้อของเขาไว้แน่น
หวงหมิงลู่ยิ้มอ่อนโยน ก่อนจะพูดปลอบเธอ “อืม ฉันอยู่นี่”
เขายกมือขึ้นเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของหลี่เฟยฮวาอย่างแผ่วเบา แล้วถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ร้องไห้ทำไม?”
หลี่เฟยฮวาจ้องหน้าเขานิ่ง ๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะย้อนถามด้วยน้ำเสียงสะอื้น “ทำไมคุณถึงผอมลงแบบนี้?”
“พักผ่อนบนเขาไม่ค่อยดี…” หวงหมิงลู่ตอบพร้อมรอยยิ้มจาง ๆ
เขาหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “และ…ทุกวันก็คิดถึงเธอมากด้วย”
เพียงสองประโยคสั้น ๆ จากเขา ทำให้หลี่เฟยฮวาสะอื้นหนักกว่าเดิม “ฉันส่งเสบียงขึ้นไปให้คุณตั้งเยอะ ทำไมถึงไม่กินให้มากหน่อย? ดูสิ คุณผอมจนแทบจำไม่ได้แล้ว”
MANGA DISCUSSION