ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน - ตอนที่ 280 อยู่ให้ห่างจากพวกเขาหน่อย
ตอนที่ 280 อยู่ให้ห่างจากพวกเขาหน่อย
สายลมพัดโชยมา เขาหันหน้าไปทางผืนดินที่กว้างใหญ่ไพศาล ดูอ้างว้างเปล่าเปลี่ยว
ตอนนี้เขาทำให้ตนเองกลายเป็นวีรบุรุษที่ยืนหยัดเพื่อความถูกต้องไปแล้ว
หลิวซิงเอ๋อร์มองแผ่นหลังของเขาอย่างประหลาดใจ เวลานี้ในสายตาของเธอ เขาก็คือวีรบุรุษที่พร้อมจะเสียสละตนเอง เรียกได้ว่าเรื่องราวมันช่างน่าเศร้า ทำให้เธอรู้สึกตื้นตันใจได้อย่างแท้จริง
คิดไม่ถึงเลยว่าทุกวันนี้จะยังมีคนแบบนี้อยู่ นี่คือคนแบบที่เราเคยได้ยินแต่ในนิทาน!
แต่ก็เข้าใจได้ เพราะว่านี่ไม่ใช่คนธรรมดา เขาเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์หลงเลยนะ อาจารย์หลงเป็นใคร ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีความสามารถยอดเยี่ยมอย่างอาจารย์หลง แต่ก็ควรจะมีอุปนิสัยอย่างอาจารย์หลงถึงจะถูก ถ้าไม่มีนิสัยอย่างอาจารย์หลงแล้วจะได้เป็นศิษย์ของอาจารย์หลงได้อย่างไร ไม่อย่างนั้นทำไมอาจารย์หลงถึงรับเขามาเป็นศิษย์ ทั้งที่มีพวกลูกหลานคนมีอำนาจอยู่ตั้งมากมาย แต่อาจารย์หลงล้วนไม่สนใจ
ตอนนี้เธอยิ่งมั่นใจมากขึ้นแล้วว่าเรื่องของเสวี่ยหลานจะต้องมีคนใส่ร้ายเขาแน่นอน ลูกศิษย์ของอาจารย์หลงจะทำเรื่องแบบนั้นได้อย่างไร การยืดหยัดต่อสู้เพื่อความถูกต้องอย่างที่เธอเห็นอยู่ตรงหน้านี่ต่างหากถึงจะเป็นคุณลักษณะของลูกศิษย์อาจารย์หลง คนแบบนี้จะไปทำเรื่องอย่างนั้นกับเสวี่ยหลานได้อย่างไร?
ผู้ชายที่วนเวียนอยู่รอบตัวเธอ เธอพอจะรู้อยู่บ้างว่าพวกเขาล้วนสนใจที่ภูมิหลังครอบครัวของเธอ แต่คนแบบลูกศิษย์อาจารย์หลงตรงหน้าเธอ คนที่เลือกทำในสิ่งที่ควรทำ ไม่ว่าใครจะห้ามอย่างไรก็ยังยืดหยัดจะทำต่อไปแบบนี้กลับไม่มีเลยจริงๆ
การได้พูดคุยกับคนแบบนี้ เธอรู้สึกว่าได้ยกระดับจิตใจของตนเองขึ้นมา พอนึกถึงพวกที่เอาแต่แต่งเนื้อแต่งตัวทำวางท่าพวกนั้น เธอก็บอกได้แค่ว่าพวกนั้นธรรมดาอย่างมาก
นี่ก็คือลูกศิษย์อาจารย์หลง! หลิวซิงเอ๋อร์นึกถึงความสามารถของอาจารย์หลงที่อยู่ในความทรงจำ มองแผ่นหลังที่อ้างว้างนั้นอย่างประหลาดใจ ค่อนข้างเศร้าใจ
คิดไม่ถึงว่าลูกศิษย์อาจารย์หลงผู้ยิ่งใหญ่จะตกต่ำถึงเพียงนี้ แต่แม้ว่าจะตกต่ำถึงขนาดนี้แล้ว เขาก็ไม่ได้ทำให้เสียชื่ออาจารย์หลง!
คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าผู้ชายที่ยืนหยัดในความถูกต้องขนาดนี้จะร่ำไห้เสียน้ำตาเพราะคิดถึงอาจารย์ หลิวซิงเอ๋อร์น้ำตารื้นขึ้นมาเล็กน้อย
ศิษย์อาจารย์คู่นี้ช่างยิ่งใหญ่จริงๆ!
เธอลุกขึ้นช้าๆ เดินไปยังข้างกายหลัวคังอัน ยื่นมือไปดึงแขนเสื้อของเขาเบาๆ ฝืนยิ้มพลางกล่าว “หลัวคังอัน ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องกังวล คุณจะต้องรอดชีวิตกลับไปแน่นอน”
หลัวคังอันกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ไอรอดน่ะรอดกลับไปได้ครับ ก่อนหน้านี้ผมไปพบจี้เผิงเลี่ยมาแล้ว เขาหวังดีครับ บอกว่าจะอนุโลมให้ผมอยู่ที่นี่ก่อน เอาไว้เรื่องของหอการค้าตระกูลฉินผ่านไปแล้วค่อยออกไป ถึงเวลานั้นผมย่อมปลอดภัยแล้วครับ”
หลิวซิงเอ๋อร์แววตาเป็นประกาย “ถูกต้อง ท่านเทพช่างปราดเปรื่องจริงๆ วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีจริงๆ ”
หลัวคังอันกล่าว “แต่จะให้ผมมาหลบอยู่ที่นี่ เอาตัวรอดไปวันๆ แล้วมองหอการค้าตระกูลฉินล้มละลายไปโดยไม่ทำอะไร? แซ่หลัวไม่ใช่คนรักตัวกลัวตาย ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ เงินรางวัลค่าหัวผมพันล้าน หึ จะหมื่นล้านแสนล้านแล้วยังไงล่ะ? แซ่หลัวไม่กลัวที่จะเผชิญหน้าหรอก ถึงตายก็ไม่มีวันเสียใจ แต่จะไม่มีวันทำผิดต่อตนเอง!ง”
แต่ในใจกลับลอบทอดถอนใจ ฉันน่ะอยากจะหลบอยู่ที่นี่ ไม่อยากมาดินแดนแห่งความฝันนี่ด้วยซ้ำ แต่มันทำได้ที่ไหนล่ะ? เจอคนที่ไม่กลัวตายจริงๆ ฉันทำอะไรไม่ได้เลย!
ถึงตายก็ไม่มีวันเสียใจ? หลิวซิงเอ๋อร์มองเขา มีบางอย่างที่อยากพูดแต่ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ได้พูดออกไป เธอรู้ว่าเกลี้ยกล่อมไม่ได้ เกลี้ยกล่อมไปกลับจะเป็นการดูถูกเขาเปล่าๆ
เดิมทีนี่เป็นสถานการณ์ที่มีความสุข แต่เวลานี้กลับรู้สึกหม่นหมองไปเสียแล้ว
……
ทั้งสองแยกกัน หลัวคังอันกลับไปยังห้องพักในฐานที่มั่น ท่าทางดูมีความสุข เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ในใจเขาก็พอจะมีความมั่นใจอยู่บ้างแล้ว
ส่วนจูเก่อม่าน ตอนนี้เขาไม่ได้นึกถึงเลยด้วยซ้ำ จะรอดชีวิตกลับไปได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้ จะไปนึกถึงทำไม
เมื่อเห็นท่าทางของเขาแบบนั้น หลินยวนหันไปมองเยี่ยนอิงที่อยู่ตรงระเบียง แล้วก็หันกลับมาถามหลัวคังอัน “เป็นยังไงบ้าง?”
หลัวคังอันก็พยายามหลบเลี่ยงเยี่ยนอิงเช่นกัน เพราะว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิง เขากระซิบกล่าว “ลองดูแล้ว เป็นฉันที่คิดมากไปเอง ไม่ได้ยากอย่างที่คิดไว้”
จริงหรือเปล่าเนี่ย? แค่ไม่กี่วันก็จีบติดแล้วเหรอ? หลินยวนเหมือนจะไม่ค่อยเชื่อ มองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า ไหนเลยจะรู้ว่าเขาจะเอาชื่ออาจารย์หลงมาแอบอ้าง ยิ่งไม่มีทางคิดถึงเลยว่าหลัวคังอันจะหลั่งน้ำตาแสดงละครอันน่าเศร้าไปด้วย
……
หลิวซิงเอ๋อร์ที่กลับไปยังห้องตนเองรู้สึกหดหู่ เธอถูกหลัวคังอันทำให้รู้สึกหดหู่ตามไปด้วย
จากนั้นไม่นาน ติงหลานที่ไปยังกองทัพก็กลับมา เมื่อเข้าห้องมา เห็นว่าลูกสาวไม่เพียงแต่จะไม่ลุกขึ้นมาต้อนรับ แต่ยังนั่งเหม่อลอยด้วย เธอเดินไปตรงหน้าอีกฝ่ายแล้วมองดู ใบหน้ายังดูเสียใจอยู่ จึงอดไม่ได้ที่จะนั่งลงพลางเอ่ยถาม “ซิงเอ๋อร์ เป็นอะไรไปลูก?”
หลิวซิงเอ๋อร์เงยหน้ามอง ทอดถอนใจพลางกล่าว “แม่คะ แม่ลองทายสิคะว่าคนที่โบกมือให้เราจากบนระเบียงคนนั้นเป็นใคร?”
ติงหลานมึนงงไปเล็กน้อย “หลัวคังอันไง! ก่อนหน้านี้ตอนที่ลูกถามคนที่เดินผ่าน แม่ก็ได้ยินด้วยแล้วไง หรือว่ามีอะไรผิดเหรอ?”
หลิวซิงเอ๋อร์ “อย่างนั้นแม่รู้ภูมิหลังของเขาไหมคะ?”
ติงหลานลังเลพลางกล่าว “ก็คนที่ช่วยหอการค้าตระกูลฉินในการประมูลไม่ใช่เหรอ ทำไม มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
หลิวซิงเอ๋อร์ “แม่ไม่รู้สินะคะ? เมื่อครู่หนูไปคุยกับเขามาถึงได้รู้ คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์หลงแห่งหลิงซาน หลงซืออวี่ที่เป็นหนึ่งในสามอธิการบดีของหลงซานน่ะค่ะ”
ติงหลานมึนงง เห็นได้ชัดว่าประหลาดใจอย่างมากเช่นกัน “เขาเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์หลง? ลูกแน่ใจเหรอ?”
หลิวซิงเอ๋อร์ “ไม่ผิดแน่ค่ะ เขาบอกว่าเดิมทีคิดจะปิดบังเรื่องนี้ไว้ และก่อนหน้านี้ก็ปิดบังมาได้ตลอด พยายามอยู่เงียบๆ ไม่ทำตัวให้เป็นจุดสนใจ ต่อมาเป็นเพราะงานประมูลครั้งนั้น พอมีคนไปสืบข้อมูลของเขามากเข้า ทุกอย่างก็เลยเปิดเผยออกมา ตอนนี้เรื่องนี้ไม่ใช่ความลับอะไรแล้ว ก่อนหน้านี้เขายังไปพบท่านเทพเพลิงมาด้วย แม่ไม่รู้อะไร พอพูดถึงอาจารย์หลง ผู้ชายตัวใหญ่ๆ อย่างเขากลับร้องห่มร้องไห้ออกมา ทำเอาหนูรู้สึกเศร้าไปด้วยเลย”
ติงหลานสงสัยพลางกล่าว “อาจารย์หลงไม่มีทางรับลูกศิษย์ง่ายๆ หรอกมั้ง? เรื่องที่ก่อนหน้านี้คนคนนี้เข้าไปทำอะไรกับเทพธิดาในเทพมหาวิญญาณนั่นแพร่กระจายไปทั่ว คนแบบนี้ อาจารย์หลงจะรับเป็นศิษย์ได้ยังไงกัน?”
หลิวซิงเอ๋อร์ถอนใจพลางกล่าว “แม่คะ แม่นี่จริงๆ เลย พวกข่าวลือที่พูดกันมาปากต่อปากนั้นเชื่อได้เหรอคะ? เมื่อครู่หนูถามเขามาแล้วค่ะ เขาบอกว่าเขาไม่ได้ทำเรื่องพวกนั้น นั่นล้วนแต่เป็นเรื่องที่คู่แข่งที่อยู่เบื้องหลังงานประมูลสร้างขึ้นมาทั้งนั้น มีคนอยากให้เขามีเรื่องอื้อฉาว เดิมทีเขาอยากจะไปหาเสวี่ยหลานเพื่อจะล้างมลทินให้ตนเอง แต่ผลก็คือเสวี่ยหลานกลับก้าวพลาดตกหน้าผาตายในระหว่างที่ไปเที่ยว เรื่องนี้มันแปลกมากค่ะ” เธอยกมือขึ้นทำท่าปาดคอฆ่าปิดปาก
ก็จริง ถ้าพูดแบบนี้ ฟังยังไงมันก็มีปัญหา ติงหลานพยักหน้าเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าความคิดเหม่อลอยออกไป “อาจารย์หลงคนนี้…ใช่แล้ว คนที่ทำตัวเละเทะไม่มีทางที่เขาจะรับเป็นศิษย์หรอก จริงสิ เขามาที่นี่ทำไม?”
หลิวซิงเอ๋อร์กล่าว “ยังต้องบอกอีกเหรอคะ? เขาเป็นรองประธานหอการค้าตระกูลฉิน ตอนนี้หอการค้าตระกูลฉินกำลังลำบาก เขาไม่สามารถนั่งมองอยู่เฉยๆ ได้ ก็เลยมาตามหาดวงตาแห่งความฝันเพื่อหอการค้าตระกูลฉินค่ะ”
“ดวงตาแห่งความฝัน?” ติงหลานขมวดคิ้ว ครุ่นคิดถึงสถานการณ์ในตอนนี้ ส่ายหน้าเล็กน้อย “ดูเหมือนจะมีคนตั้งรางวัลค่าหัวเขาพันล้านนี่? ต่อให้หาดวงตาแห่งความฝันเจอ กลัวว่าเขาจะไม่สามารถมีชีวิตรอดกลับไปได้น่ะสิ”
“ใช่ค่ะ!” หลิวซิงเอ๋อร์พยักหน้าหงึกๆ จู่ๆ ก็ลุกขึ้นไปบีบไหล่ให้แม่ “แม่คะ แม่ก็ได้แสดงความสามารถในดินแดนแห่งความฝันมาหลายครั้ง จัดการกับเรื่องต่างๆ ในดินแดนแห่งความฝันได้เป็นอย่างดี ถ้ายังไงอาศัยความสามารถของแม่ไปช่วยเขาสิคะ”
ติงหลานได้ยินก็เลิกคิ้วขึ้น ยกมือขึ้นปัดมือของลูกสาวออก ลุกขึ้นหันมามองหน้าลูกพลางกล่าวเตือน “พูดไร้สาระอะไรกัน? เรื่องเงินรางวัลของหอการค้าตระกูลฉินทำให้วุ่นวายไปหมด ทางเข้าดินแดนแห่งความที่ปิดผนึกไว้ก็เปิดออกแล้ว สถานการณ์ตอนนี้ คนที่มีสติปัญญาล้วนรู้กันว่าสภาเซียนไม่ได้อยากให้หอการค้าตระกูลฉินหาดวงตาแห่งความฝันเจอ แล้วแม่จะเข้าไปพัวพันกับเรื่องนี้ได้ยังไง? ลูกบอกแม่มาตามตรง เขามาพูดอะไรกับลูกหรือเปล่า เขามาโน้มน้าวให้ลูกมาคุยกับแม่ใช่ไหม? พูดมา บอกแม่มาตามตรง เขาพูดอะไรกับลูกบ้าง?”
หลิวซิงเอ๋อร์ร้องโอ๊ยพลางกล่าว “แม่คะ แม่คิดมากไปแล้ว ไม่มีหรอกค่ะ ไม่มีจริงๆ ”
ติงหลานกล่าว “อย่างนั้นเขามาเข้าหาลูกทำไม?”
หลิวซิงเอ๋อร์ยิ้มเจื่อนพลางกล่าว “เขาไม่ได้เข้าหาหนูหรอกค่ะ หนูเบื่อๆ เลยเป็นฝ่ายไปหาเขาก่อน”
ติงหลานกล่าวอย่างเคร่งขรึม “แม่ขอเตือนลูกนะ อย่าไปยุ่งกับคนแบบนี้มากนัก คนที่กล้าเข้ามาในดินแดนแห่งความฝันในเวลานี้ ล้วนเป็นคนไม่สนใจความเป็นความตาย คนพวกนี้ทำได้ทุกอย่างไม่ว่าเรื่องอะไร ลูกอยู่ให้ห่างจากพวกเขาหน่อย อย่าไปดึงไฟเข้าหาตัว! นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมา ต่อให้พ่อของลูกก็ปกป้องลูกไม่ได้นะ!”
“ค่ะแม่ ลูกจะจำไว้ แม่วางใจได้ค่ะ คำสอนของแม่หนูจำขึ้นใจแล้วค่ะ! จริงๆ เลยเชียว หนูอายุตั้งเท่าไหร่แล้ว อยู่สภาเซียนมาก็ตั้งหลายปี หนูจะแยกแยะเรื่องผิดชอบชั่วดีไม่ออกเลยเชียวเหรอคะ?”
……
ณ โรงงานสร้างข่ายพลังของหอการค้าตระกูลฉิน ในถ้ำบนหน้าผา เจียงอวี้เข้าถ้ำไปพบเว่ยผิงกง ก่อนที่จะเอ่ยขึ้นมาว่า “ผบ.เว่ยครับ ท่านประธานฉินมาขอพบท่านครับ”
เว่ยผิงกงไม่ได้แปลกใจกับการที่ฉินอี๋มาที่นี่เลย ฉินอี๋จะมาที่นี่อย่างสม่ำเสมอเพื่อปลอบใจพนักงานที่ได้รับพิษ ยาแก้พิษยังไม่มาเสียที ใจคนยากจะสงบได้
เว่ยผิงกงวางไหสุราลง “เจียงอวี้ นี่นายกลายเป็นสายลับที่หอการค้าตระกูลฉินส่งมาที่นี่เหรอ!”
เจียงอวี้ยืนประสานมือไม่พูดอะไร
“นายตามเธอไม่ทันหรอก รู้ตัวหรือเปล่า?” เว่ยผิงกงกล่าวจบก็เหลือบมองเขา เห็นเขาไม่สะทกสะท้านอะไร ก็ส่ายหน้าเล็กน้อย “ให้เธอเข้ามาสิ”
“ครับ” เจียงอวี้รับคำ หันหลังเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
ไม่นานนัก ฉินอี๋ก็เดินเข้ามาพร้อมกับเจียงอวี้ ส่วนพวกไป๋หลิงหลงก็เข้ามาไม่ได้อย่างเคย
“คารวะท่านผบ.เว่ยค่ะ” ฉินอี๋ทำความเคารพอย่างสุภาพ
“ฉันมีอะไรให้มาเข้าพบ?” เว่ยผิงกงเงยหน้าขึ้นมองเธอ พบว่าผู้หญิงคนนี้ซูบลงไปไม่น้อย แม้จะแต่งหน้าก็ยากที่จะปกปิดความอ่อนล้านั้นเอาไว้ได้ พอจะนึกภาพออกเลยว่าปัญหาเรื่องยาแก้ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขนี้สร้างความกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ “เกรงว่าเรื่องที่มาสืบข่าวคงจะเป็นความจริงใช่ไหม?” เขามองเจียงอวี้อีกครั้ง
ก่อนหน้านี้เจียงอวี้ก็มาขอร้องเขา หวังว่าทางนี้จะช่วยสืบเรื่องสถานการณ์ของหลัวคังอันที่ดินแดนแห่งความฝัน
ฉินอี๋กำลังจะเอ่ยปาก เว่ยผิงกงก็ยกมือห้ามไว้ก่อน “พวกคำพูดเสแสร้งไม่ต้องพูด ฉันไม่อยากฟัง หลัวคังอันเป็นยังไง เธอโทรไปถามเอาเองเลย ตอนนี้น่าจะติดต่อเขาได้ตามปกติแล้ว”
“ติดต่อได้ปกติแล้วเหรอคะ?” ฉินอี๋เงยหน้าขึ้นอย่างมึนงง ไม่ค่อยเข้าใจ
เว่ยผิงกงกล่าว “ตอนนี้เขาอยู่ในฐานที่ตั้งของกองทัพในดินแดนแห่งความฝัน อ้างชื่อของอาจารย์หลงไปเข้าพบเทพแห่งเพลิงจี้เผิงเลี่ยที่ไปนั่งบัญชาการอยู่ที่ดินแดนแห่งความฝัน ไปขอให้เขาช่วย พยายามพูดเรื่องไร้สาระ จี้เผิงเลี่ยจะไปช่วยได้ยังไงกัน ที่ฐานที่ตั้งกองทัพในดินแดนแห่งความฝันติดตั้งข่ายพลังสื่อสารเอาไว้ น่าจะติดต่อกับโลกภายนอกได้ตามปกติ เธอไปถามเอาเองเถอะ”
ที่จริงเขาก็กังวลเรื่องที่หลัวคังอันอยู่ที่ดินแดนแห่งความฝันเช่นกัน แต่จะไปถามตรงๆ มันก็ไม่ดี จึงอ้างว่าหอการค้าตระกูลฉินขอให้ช่วยถาม ติดต่อไปหาจี้เผิงเลี่ย จี้เผิงเลี่ยก็พอจะไว้หน้าเขาอยู่บ้าง จึงบอกเล่าสถานการณ์คร่าวๆ ให้ฟัง
ฉินอี๋เม้มปาก รู้สึกตื้นตันใจ ไม่คิดว่าหลัวคังอันจะอ้างชื่ออาจารย์หลงไปขอร้องคนที่ดินแดนแห่งความฝันเพื่อตามหาดวงตาแห่งความฝัน รสชาติของการไปร้องขอคนอื่นย่อมยากที่จะรับได้ โดยเฉพาะกับเรื่องที่ทำได้ยาก รองประธานหลัวคนนี้เรียกได้ว่าพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือหอการค้าตระกูลฉินจริงๆ
หลังจากส่งฉินอี๋กับเจียงอวี้ออกไปแล้ว เว่ยผิงกงก็ลุกยืนขึ้น เดินเอามือไพล่หลัง “อาจารย์หลงยังเคยบอกเขาเรื่องเทพแห่งความฝันด้วยเหรอ? หมอนี้มีวิธีตามหาดวงตาแห่งความฝันจริงๆ เหรอ?”
โม่ซินที่อยู่ข้างๆ กล่าวว่า “ในเมื่อเขาพูดกับจี้เผิงเลี่ยไปแบบนี้ ดูแล้วเขาน่าจะมีความมั่นใจอยู่นะครับ”
เว่ยผิงกงหัวเราะหึหึ “ดูท่าทางจะเป็นลูกศิษย์คนสุดท้ายจริงๆ เหมือนจะรักมากเลยนะนั่น!” ในคำกล่าวนั้นเจือความไม่พอใจอยู่
…………………………………………………………