บทที่ 93 ไป๋
คืนนั้น สืออวี่ไป๋แทบทนไม่ไหวที่จะเล้าโลมเธอจนถึงที่สุด
ตอนนี้เองที่ฉือฮวนเข้าใจว่าความรักไม่ได้มีเพียงรสหวานเท่านั้น แต่ยังมีรสขมรุนแรงที่ไม่อาจแก้ได้อีกด้วย
ในความสัมพันธ์นี้ เธอเกิดมาพร้อมกับบาปดั้งเดิม
บาปดั้งเดิมนี้คือการต่อต้าน การขัดขืน หรือแม้แต่ความรังเกียจที่ตัวเธอในอดีตมีต่อสืออวี่ไป๋
เธอไม่สามารถหยุดคิดนับครั้งไม่ถ้วนว่า จะดีแค่ไหนหากเธอเกิดใหม่ในช่วงเวลาที่เธอเพิ่งพบกับสืออวี่ไป๋ครั้งแรก หรืออย่างน้อยก็ก่อนที่เธอจะพูดเรื่องหย่ากับเขา แล้วปัจจุบันนี้ทุกสิ่งคงจะดีกว่านี้
ตอนนี้เธอใช้ชีวิตราวกับกำลังถือระเบิด ต้องคอยตื่นตัวตลอดเวลาว่ามันจะระเบิดเมื่อไร
จิตใจของเธอเต็มไปด้วยความเป็นไปได้ แต่ความเป็นจริงกลับไม่ยอมให้เธอคิดมาก หลายสิ่งหลายอย่างบีบคั้นเธอ เช่นว่าวันนี้พวกเขาต้องพิจารณาสถานที่ต่าง ๆ ในอำเภอ จนในที่สุดก็มาตั้งรกรากบนถนนที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดของอำเภอ
น่าเสียดายที่ร้านค้าที่นี่ยากจะได้มาครอบครอง มีร้านเสื้อผ้าของรัฐแห่งหนึ่งที่ต้องรออีกสองสามวัน เนื่องจากการดำเนินธุรกิจย่ำแย่จนต้องโอนย้ายทรัพย์สิน
หากต่อรองได้ ไม้แขวนเสื้อและเศษของตกแต่งที่จัดวางในร้านขายเสื้อผ้าก็สามารถนำมาใช้ได้อีก
ฉือฮวนและสืออวี่ไป๋ปรึกษากัน และตัดสินใจที่จะรอ
แต่ระหว่างช่วงที่รออยู่ เย่หมิงจูก็มาที่บ้าน หลังจากสนทนากันเล็กน้อย เธอก็หยิบการ์ดเชิญออกมาจากกระเป๋า
“ฮวนฮวน ฉันกับจื่อเฉียนกำลังจะแต่งงานกัน ฉันรู้ว่าที่ทำแบบนี้มันผิดต่อเธอ ถึงยังไงเธอกับจื่อเฉียนก็…”
ขณะที่พูด เธอก็กวาดตามองเข้าไปภายในบ้านราวกับกำลังค้นหาใครบางคน
ฉือฮวนอ่านความคิดเธอออก จึงพูดด้วยรอยยิ้มครึ่ง ๆ “เธอมองหาอวี่ไป๋อยู่เหรอ?”
“เขาทำอาหารอยู่ อยากให้ฉันช่วยเรียกเขาออกมาไหม”
เย่หมิงจูยิ้มเหยียดและลดเสียงลง “ไม่ต้อง!”
จากนั้นก็อธิบายว่า “ฉันกลัวเขาจะได้ยินเราคุยกัน ฮวนฮวน ฉันรู้สึกเสียใจกับเธอมาก เพราะก่อนหน้านี้เธอกับจื่อเฉียนดีต่อกันมาก และเกือบจะแต่งงานกัน แล้วจู่ ๆ ฉันก็สอดเท้าเข้าไปแทรกแซง เธอคงจะนึกตำหนิฉัน”
ฉือฮวนพูดอย่างสงบ “ก่อนอื่นเลย ระหว่างฉันกับเฉิงจื่อเฉียนอย่าเรียกว่า ‘ดีต่อกัน’ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องจะแต่งงานกัน ดังนั้นเธอไม่ต้องรู้สึกเสียใจต่อฉัน”
“อย่างที่สอง ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเธอกับเฉิงจื่อเฉียน พวกเธอเริ่มคิดที่จะอยู่ด้วยกันเมื่อไร? ในเมื่อเธอคือ ‘เพื่อนสนิท’ ที่สุดของฉัน ทำไมถึงซ่อนเรื่องใหญ่ขนาดนี้จากฉัน สิ่งที่เธอทำช่างไม่ยุติธรรมเลย”
พอได้ยินคำตอบของฉือฮวน สีหน้าของเย่หมิงจูก็สดใสขึ้น นึกไปว่ายังมีโอกาสที่จะประสานมิตรภาพระหว่างกัน จึงรีบเอ่ยว่า “ฮวนฮวน เธอต้องเชื่อฉัน ฉันกับเฉิงจื่อเฉียนบริสุทธิ์ใจต่อกัน ไม่ได้มีความสัมพันธ์เกินเลยสักนิด”
“แค่เขาบอกว่าต้องการจ้างฉันเป็นพนักงานขาย ฉันก็เลยไปช่วยงานที่บ้านป้าเฉิง ใครจะรู้ว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดข้อผิดพลาด และสาวบริสุทธิ์อย่างฉันจะพลอยโดนหางเลขถูกจับเข้าคุกไปด้วย”
“แต่ครอบครัวของฉัน พวกเขาไม่ยอมแพ้และไปหาตระกูลเฉิง จากนั้นก็กำหนดการแต่งงานระหว่างทั้งสองตระกูล”
“พอฉันออกจากคุก สิ่งแรกที่ฉันคิดได้คือมาอธิบายให้เธอเข้าใจ น่าเสียดายที่เธอไปกวางตุ้ง ฉันเลยไม่เจอเธอ”
เย่หมิงจูมีท่าทีสลดมาก ราวกับว่าเธอถูกใส่ร้ายจริง ๆ
ฉือฮวนยิ้มเยาะในใจ แต่ไม่ได้แสดงสีหน้า “เขาจ้างเธอเป็นพนักงานขาย แต่ทำไมฉันได้ยินมาว่าเธอกับเขาทำธุรกิจร่วมกันล่ะ?”
“สำนักงานอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ใส่ความเธอเหรอ?”
เย่หมิงจูตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด “ฮวนฮวน เธออย่าฟังข่าวลือพวกนี้ ฉันถูกใส่ร้ายจริง ๆ หากเธอไม่เชื่อก็มาเจอกับเฉิงจื่อเฉียนพร้อมฉันสิ!”
โชคดีที่ฉือฮวนสงบสติอารมณ์ได้ จึงไม่หลงกล
“ถ้าเธอถูกกล่าวหาอย่างไม่ถูกต้อง ก็สามารถยื่นฟ้องต่อสำนักงานอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ได้ เธอไม่เพียงได้กอบกู้ชื่อเสียงของเธอเท่านั้น แต่เธอยังอาจได้รับค่าชดเชยจากรัฐจำนวนมากด้วย”
ฉือฮวนแกล้งทำดีต่อเย่หมิงจู และพูดอย่างกังวลว่า “หมิงจู นี่เป็นโอกาสที่ดีครั้งหนึ่งในชีวิต เธอกำลังจะแต่งงานกับเฉิงจื่อเฉียน ตามปกติตระกูลเธอไม่เตรียมสินสอดเดิมให้นี่ เธอยอมได้เหรอ?”
“ฉันจะไปยื่นฟ้องที่ศาลกับเธอ ให้พวกเขาล้างมลทินให้เธอ และยังได้รับค่าชดเชยอีกมาก!”
“ยอมไม่ได้! มีคนถูกกล่าวหาอย่างไม่ยุติธรรมได้ยังไง? ชื่อเสียงของเธอถูกทำลายกันพอดี!”
ยิ่งเธอพูดมากเท่าไรก็ยิ่งทำเป็นโมโหมากขึ้นเท่านั้น และฉือฮวนก็ลากเย่หมิงจูออกไปข้างนอก
เย่หมิงจูตกอยู่ในความสับสน เธอกับเฉิงจื่อเฉียนได้รับการปล่อยตัวเพราะเฉิงชิงชิงเอาตัวเข้าแลก กว่าจะได้ออกจากคุกสกปรกนั่นยากลำบากไม่น้อย เธอจึงไม่อยากมีปัญหาจนถูกจำคุกอีก
“ฮวนฮวน หากปล่อยวางได้ก็ควรปล่อยวางเถอะ นอกจากนี้ที่นั่นเป็นหน่วยงานของรัฐ จะชนะคดีได้ง่าย ๆ ที่ไหน กว่าฉันจะออกจากคุกมาได้ ฉันเลยไม่อยากมีเรื่องยุ่งยากอีก”
ฉือฮวนเริงร่าอยู่ในใจ แต่ภายนอกเธอยังคงทำเป็นโกรธอยู่
“เรื่องยุ่งยากอะไรกันล่ะ?”
“ชื่อเสียงของเธอไม่สำคัญหรือไง? เธอไม่ได้ถูกใส่ความเหรอ? เธอแค่พยายามโกหกฉันเหรอ? ที่แท้เธอกับเฉิงจื่อเฉียนก็ลอบคบกันมานานแล้วงั้นสิ?”
ฉือฮวนหรี่ตามองเย่หมิงจูด้วยความสงสัย
เย่หมิงจูคุมความสงบไม่อยู่ “จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง ฮวนฮวน ฉันไม่กล้าโกหกเธอหรอก แค่ว่างานแต่งงานของฉันกำลังจะจัดขึ้น ฉันเลยไม่อยากสร้างปัญหาในช่วงนี้”
“ฮวนฮวน เธอต้องรับการ์ดเชิญนี้และมางานแต่งพร้อมกับสืออวี่ไป๋นะ”
เย่หมิงจูกลัวว่าฉือฮวนจะไม่มา เธอจึงไม่ลืมทวงบุญคุณ “ตอนที่เธอกับสืออวี่ไป๋แต่งงานกัน ฉันเป็นเพื่อนเจ้าสาว คราวนี้ถึงยังไงเธอก็ต้องมางานแต่งงานฉันให้ได้”
พูดจบก็ขอร้องเบา ๆ “ฮวนฮวน เธอว่าไง?”
ฉือฮวนลดสายตาลง ถือการ์ดเชิญสีแดงราวกับหยดเลือด มุมปากเชิดขึ้นน้อย ๆ แทบมองไม่เห็น “ฉันจะไปร่วมงานแน่นอน และจะเตรียมของขวัญชิ้นใหญ่ให้เธอ”
“หมิงจู ยินดีด้วยที่ได้แต่งงาน”
เธอแฝงความนัยบางอย่างไว้
ชาติที่แล้วเย่หมิงจูมอบของขวัญมากมายให้กับเธอ คงจะเสียมารยาทหากเธอไม่ส่งคืนให้ครบทุกชิ้นจริงไหม?
เย่หมิงจูนึกว่าฉือฮวนจะให้ของขวัญเธอจริง ๆ จึงอดไม่ได้ที่จะคิดว่าพวกเขาขายเสื้อผ้าทำเงินได้มากมายในเวลานี้ จะให้ของขวัญอะไรกับเธอกันนะ?
เธอมีความสุขมากจนน้ำเสียงฟังดูร่าเริง
“ได้เลย ฉันจะรอเธอที่งานแต่งงาน”
“เดินระวังนะ ฉันไม่ออกไปส่ง”
ฉือฮวนหรี่ตาลงมองเย่หมิงจูจากไป เมื่อคิดถึงการทรยศ การสร้างเรื่อง และการใส่ร้ายโดยเย่หมิงจูในชาติที่แล้ว เธอก็อดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น
ฉันควรให้ของขวัญอะไรกับเธอดี?
ทันใดนั้น เอวของเธอก็ถูกกระชับแน่นขึ้นเพราะสืออวี่ไป๋กอดเธอจากด้านหลัง และจูบอย่างหนักที่คอและลาดไหล่ของเธอ
“คุณคิดอะไรอยู่อีกแล้วเหรอ?”
อาการเสียวซ่านแล่นพล่านทั่วผิว ฉือฮวนจึงเอียงหน้าหลบการรุกล้ำของสืออวี่ไป๋
ดวงตาอิ่มเอิบเป็นประกายจ้องเขา “จะว่ายังไงดี วางแผนการชั่วร้ายใส่เขากันดีไหม? ถ้าไม่ใช่เพราะเย่หมิงจู ฉันกับคุณจะถูกสร้างเรื่องใส่ความเหรอ?”
พอพูดไปได้ครึ่งทาง ฉือฮวนก็ต้องตกใจเมื่อตระหนักว่าหลุดปากพูดออกไป
MANGA DISCUSSION