บทที่ 91 สือ
ฉือฮวนเห็นความลังเลของผู้เป็นแม่ เธอคล้องแขนอีกฝ่ายแล้วออดอ้อนออเซาะ “แม่คะ ถือเสียว่าช่วยหนูหน่อยนะคะ เงินเดือนก็เหมือนพี่สะใภ้รองเลยค่ะ แม่คิดว่าดีไหมคะ?”
เพราะเธอแต่งงานแล้วใช้ชีวิตในหมู่บ้าน สือเยี่ยนจึงเติบโตจากการเลี้ยงดูของยายเกือบทั้งหมด เมื่อก่อนเธอมันประหลาด ไม่ทุ่มเทเรื่องลูกชายสักนิด ผลักภาระทั้งหมดให้แม่ฉือ
ฉือฮวนอยากชดเชยให้ผู้เป็นแม่ แต่ทำแบบโจ่งแจ้งก็คงไม่ได้
ดังนั้นเงินเดือนจึงกำหนดให้เท่ากับจางเสี่ยวเชี่ยว
อาจเพราะอีกฝ่ายรู้สึกสั่นคลอนเพราะเห็นดวงตาอ้อนวอนของฉือฮวน แม่ฉือจึงใจอ่อนอย่างรวดเร็ว แต่สิทธิ์ในการตัดสินใจไม่ได้อยู่ที่เธอ เธอจึงหันไปขอความช่วยเหลือจากฉือโหย่วจิน
ฉือโหย่วจินเห็นลูกสาวและสืออวี่ไป๋ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างสงบสุขก็ดีใจยิ่งกว่าใคร ตอนนี้งานของลูกสะใภ้ไม่เพียงลงตัว ภรรยาก็ไปช่วยได้ด้วย เขาจึงดีใจมาก
แต่เขาต้องครุ่นคิดเรื่องราวในระยะยาวสักหน่อย เขาขมวดคิ้วถาม “แค่เงินต่อเดือน ลูกก็ต้องให้เงินสะใภ้รองและแม่สี่สิบหยวนเลยนะ บวกกับเงินค่าร้านและค่าเดินทางไปเอาของอีก ต้องมีค่าใช้จ่ายเท่าไรกัน พวกลูกแบกรับไหวแน่ใช่ไหม?”
ฉือฮวนยิ้มแล้วตอบ “พ่อวางใจได้เลย พวกเรามีแผนในใจแล้วค่ะ”
“ถ้ามองตอนนี้ จ่ายเงินเดือนของพี่สะใภ้รองและแม่แล้วก็ยังเหลือเฟือค่ะ”
ฉือโหย่วจินเห็นสีหน้ามั่นใจของฉือฮวนและท่าทางนิ่ง ๆ ของสืออวี่ไป๋ เขาก็วางใจอย่างรวดเร็ว “ได้! งั้นพวกลูกก็ตั้งใจทำงานล่ะ ไขว่คว้าเงินก้อนโตให้ได้!”
อารมณ์ของผู้คนพลุ่งพล่านพลันทยอยชูแก้วขึ้น “มา ทุกคนมาทำเงินก้อนใหญ่ด้วยกัน!”
ภายในลานบ้านเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะพูดคุยกัน
หลังจากกลับมาถึงอำเภอ ฉือฮวนและสืออวี่ไป๋ก็เริ่มสำรวจเรื่องร้านเสื้อผ้าไม่หยุดหย่อน ขณะเดียวกันก็ฟังข่าวผลการปล่อยตัวเฉิงจื่อเฉียนและเย่หมิงจูไปด้วย
เดิมทีคนที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ก็คือเฉิงชิงชิง
ไม่รู้ว่าเฉิงชิงชิงใช้วิธีอะไรถึงยั่วยวนผู้อำนวยการจางได้ เธอจึงสามารถแต่งเข้าอำเภอได้ แน่นอนว่าหน้าตาต้องไม่เลว กอปรกับมีกลวิธีบางอย่าง พูดข้างหมอนอย่างต่อเนื่อง ไม่นานก็เห็นผล
เมื่อฉือฮวนได้ยินข่าวนี้ก็ตกตะลึงไม่น้อย ขณะเดียวกันก็มีความรู้สึกถึงอันตรายที่อธิบายไม่ได้ท่วมท้นออกมา
ไม่คิดเลยว่าเฉิงชิงชิงจะมีเล่ห์เหลี่ยมอย่างนี้ เธอพยายามทบทวนเรื่องราวในชาติก่อน แต่ยิ่งร้อนใจยิ่งคิดไม่ออก เธอต้องละเลยข้อมูลสำคัญอะไรไปแน่
“คุณเป็นยังไงบ้างครับ?”
ดวงตากังวลของสืออวี่ไป๋อยู่ใกล้หน้าเธอ
ฉือฮวนพลันได้สติ ดวงตาวาววับพลางเม้มปาก “เธอทำอย่างนี้ไม่กลัวภรรยาของผู้อำนวยการจางหมายหัวเหรอคะ?”
สืออวี่ไป๋ส่งแก้วชาให้เธอ อุณหภูมิน้ำชากำลังพอดี เมื่อเห็นเธอจิบไปคำหนึ่งถึงพูดขึ้นช้า ๆ “ภรรยาของผู้อำนวยการจางไม่ได้อยู่อำเภอหนิงเซียงครับ เธอทำงานราชการ ได้ยินมาว่ากำลังทำงานอยู่เมืองข้างเคียง”
ฉือฮวนพลันเข้าใจ “ดังนั้นเฉิงชิงชิงถึงได้อาศัยช่องว่างเข้าไปสินะคะ”
“ไม่คิดเลยว่าเธอจะเป็นคนอย่างนี้ ยอมเสียสละร่างกายอย่างไม่เสียดายเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย”
“จากคำพูดของคุณ พอบอกว่าเฉิงจื่อเฉียนและเย่หมิงจูคงไม่ได้ติดคุกต่อแน่ คุณเหมือนจะไม่พอใจนะครับ”
แน่นอนอยู่แล้ว ชาติก่อนเฉิงจื่อเฉียนและเย่หมิงจูทำร้ายพวกเขาสามคนอย่างทารุณขนาดนั้น จะปล่อยให้ทั้งสองออกมาง่าย ๆ ได้อย่างไร?
แต่คงพูดต่อหน้าสืออวี่ไป๋ไม่ได้
เธอพูดอย่างจงใจ “พวกเขาแจ้งความเราครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าไม่ใช่เพราะเรามีไหวพริบ ตอนนี้คนที่ถูกส่งเข้าคุกอาจเป็นเราแทน”
“พวกเขาต้องนั่งจนคุกทะลุ พวกเราถึงจะคลายโกรธ”
เมื่อนึกถึงสืออวี่ไป๋ที่เกือบโดนใส่ร้าย เธอก็กดความแค้นในใจไม่อยู่
“อวี่ไป๋ หรือว่าคุณไม่แค้นพวกเขาเลยเหรอคะ?”
“ทั้งที่พวกเขาคั่วกันอยู่ แต่กลับมาพัวพันกับฉัน ทำลายความรู้สึกระหว่างสามีภรรยา ฉันแค้นพวกเขามากจริง ๆ ค่ะ”
ฉือฮวนพูดอย่างอดกลั้น
“อืม งั้นลองคิดวิธีอื่นมาถ่วงอำนาจพวกเขากัน”
“เฉิงชิงชิงและผู้อำนวยการจางกำลังคั่วกันอยู่ ตอนนี้ยังไม่ใช่โอกาสครับ”
ฉือฮวนกำหมัดแน่น เล็บแทงเข้าฝ่ามือ “งั้นตอนไหนถึงจะได้โอกาสคะ? หรือต้องรอพวกเขาออกมาเบ่งอำนาจทั้งตาค้างอยู่อย่างนี้?”
เธอถอนหายใจยาวอย่างเศร้าสร้อย “ทำไมคนดีถึงไม่ได้ดี คนชั่วอย่างพวกเขากลับถูกละเว้นโทษตลอดเลยคะ?”
“ไม่ยุติธรรมสักนิด!”
ความแค้นในชีวิตนี้และชีวิตก่อนสะสมรวมกัน โกรธจนเบ้าตาเธอเคลือบน้ำตาบางเบา
สืออวี่ไป๋เกือบหลุดขำกับท่าทางของหญิงสาว เขาโน้มตัวแล้วใช้นิ้วกร้านปาดน้ำตาที่หางตาของเธอแล้วพูดว่า “ผมแค่บอกว่าโอกาสยังมาไม่ถึง ไม่ได้บอกว่าจะไม่ล้างแค้นเสียหน่อย?”
เขาถือโอกาสดึงร่างกายผอมบางของฉือฮวนเข้าอก
ขณะโผเข้าไปหากลิ่นสดชื่นอันคุ้นเคยนั้น อารมณ์ที่กลั้นไว้ของฉือฮวนพลันระเบิดออก “สืออวี่ไป๋ ฉันเกลียดพวกเขามากค่ะ ทำไมต้องใส่ร้ายฉัน ใส่ร้ายคุณ ทำลายความสุขของบ้านเราสามคนด้วย”
เธอสะอื้น เสียงคร่ำครวญจากใจออกมาอย่างต่อเนื่อง น้ำตาแห่งความเศร้าสาดบนเสื้อขาวของสือวี่ไป๋ “ฉันไม่สน ต่อให้คุณจะคิดว่าฉันเป็นคนชั่วร้ายใจแคบ ฉันก็ต้องล้างแค้นให้ได้”
“ไม่ว่าจะเป็นเฉิงจื่อเฉียน เย่หมิงจูหรือเฉิงชิงชิง คนที่ใส่ร้ายฉันทั้งหลาย ฉันจะให้พวกเขาจ่ายค่าตอบแทนกันให้หมด”
ฉือฮวนร้องไห้จนไหล่สั่น แผ่นหลังสั่นเทา กอดสืออวี่ไป๋เข้าอ้อมแขนเงียบ ๆ
“แบบนั้นคุณถึงจะมีความสุขใช่ไหมครับ?”
“ใช่ค่ะ…”
ฉือฮวนร้องไห้จนกระบอกตาแดง เงยหน้ามองใบหน้าเคร่งขรึมของเขาผ่านละอองน้ำตาอันพร่ามัว
เธอกัดฟัน “ฉันจะให้พวกเขาเอาเลือดมาล้างด้วยเลือด”
”
สืออวี่ไป๋ถอนหายใจอย่างหาได้ยาก ราวกับเส้นเสียงอยู่ข้างหูเธอ “ครับ”
“หืม?”
ฉือฮวนร้องไห้จนหัวโล่ง มองเขาอย่างไม่เข้าใจ
สืออวี่ไป๋ไม่มีทางเลือก เขาปาดน้ำตาทั้งหมดบนหน้าเธอแล้วมองเธออย่างจริงจัง “ถ้าอยากแก้แค้นพวกเขาขนาดนั้น งั้นผมก็จะอยู่ข้างคุณด้วย ดีไหมหืม?”
“ไม่ต้องร้องแล้วครับ ถ้าร้องอีกจะขี้เหร่เอานะ”
ฉือฮวนได้ยินคำตอบของเขา เสมือนมีน้ำผึ้งชโลมใจ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะทุบอกแน่นของเขา “คุณกล้าล้อฉันเหรอ ไม่ชอบที่ฉันน่าเกลียดละสิ!”
เธอยิ้มทั้งน้ำตา หางตาและคิ้วย้อมด้วยรอยยิ้มจาง ๆ
การที่ฉือฮวนร้องไห้ขนาดนี้ทำให้สืออวี่ไป๋รู้สึกปวดใจและใจอ่อนยวบ เขาก้มหัวอย่างอดไม่ได้แล้วใช้ปากนุ่มประทับลงบนเปลือกตาบวมแดงของเธอ
การเย้าหยอกทั้งหมดพลันหายไปในอากาศ ความร้อนเร่าค่อย ๆ เติมเต็มลมหายใจ
ตอนที่ริมฝีปากนั้นผละออก ลมหายใจของฉือฮวนตีบอยู่ในลำคอ ห้องกว้างเงียบเชียบจนแทบได้ยินเสียงเข็มหล่นบนพื้น มีเพียงใบหน้าของเธอที่แดงขึ้นทีละนิดภายใต้สายตาที่ทอดมองยาวนานของสืออวี่ไป๋
สืออวี่ไป๋เคลื่อนหน้าลงมา ริมฝีปากประทับบนใบหน้าเธออย่างรักใคร่
กระแสไฟฟ้าทะลวงหัวใจเธอต่อเนื่อง ลมหายใจของฉือฮวนพลันหอบหนัก กำเสื้อขาวของสืออวี่ไป๋อย่างไร้กำลัง
มือใหญ่กดมือขาวของเธอไว้ ทำให้เธอสัมผัสได้ถึงกล้ามเนื้อชัดเจนและลายเส้นเว้าโค้ง มันทำให้สมองเธอเหลวเป๋ว
ตรงหน้าเหลือแค่ริมฝีปากแดงเรื่อของสืออวี่ไป๋เท่านั้น
เขาเลิกคิ้วขึ้นอย่างอยากเอาชนะแล้วค่อย ๆ ปิดลมหายใจของเธอ…
MANGA DISCUSSION