บทที่ 79 ปาน
อุณหภูมิในตาสือจิ้งเสียนเย็นลงอย่างเห็นได้ด้วยตาเปล่า ท่าทางการเม้มปากเหมือนสืออวี่ไป๋อยู่หลายส่วน
เมื่อก่อนสือจิ้งเสียนก็ไม่ชอบเธอเหมือนกัน ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าล้วนดูหมิ่นไปกว่าครึ่ง แต่ไม่เคยเคร่งขรึมเท่านี้
“พี่หมายความว่าอะไรคะ?”
หล่อนหัวเราะหยัน หลุบตาลงแล้วกระดิกนิ้วไปมา “ถ้าจำไม่ผิด เธอและสืออวี่ไป๋แต่งงานมาสามปีแล้วสินะ อย่าบอกนะว่าเวลาสามปีนี้เธอไม่รู้จักอวี่ไป๋เลย”
ฉือฮวนกัดปากแล้วรวบรวมความกล้า “ถ้าฉันบอกว่าใช่ล่ะคะ?”
“งั้นอวี่ไป๋ก็ดันทุรังเกินไป ปล่อยคนดี ๆ ไปมากขนาดนั้น ไม่ต้องการผู้หญิงที่ชอบเขา แต่ดึงดันจะชอบเธอที่ให้ตายยังไงก็ไม่ชอบเขา นอกจากจะตามเธอไปลำบากถึงสถานที่ทุรกันดารแล้ว พอแต่งงานมาสามปีก็ต้องปกป้องภรรยาที่ไม่เหลียวแลเขาสักนิดอย่างสุดใจอีก”
คำพูดทุกคำของสือจิ้งเสียนราวกับเปล่งเสียงลอดไรฟัน “สม น้ำ หน้า!”
ทว่าคำพูดแต่ละคำไม่เหมือนกำลังฟาดฟันสืออวี่ไป๋อยู่ แต่คล้ายกำลังเฉือนเธอเป็นชิ้น ๆ
“พี่คะ พี่ก็รู้ดีว่าฉันกับสืออวี่ไป๋ไม่ใช่คู่สามีภรรยาทั่วไป ตอนที่ฉันแต่งให้เขา ใจฉันไม่ยินยอมจริง ๆ”
สือจิ้งเสียนประดับด้วยรอยยิ้มเย็น กอดอก ท่าทางเหมือนกำลังดูงิ้ว “อะไรล่ะ คำพูดนี้หมายความว่าอะไร ตอนนี้เธอยินยอมแล้วเหรอ?”
ฉือฮวนพยายามต้านความร้อนบนแก้มแล้วเผชิญสายตาของสือจิ้งเสียนตรง ๆ “ใช่ค่ะ เมื่อเวลาเปลี่ยน ฉันก็ยิ่งชอบสืออวี่ไป๋มากขึ้นเรื่อย ๆ”
“โกหก”
สือจิ้งเสียนไม่ไว้หน้าสักนิด ดวงตาเต็มไปด้วยความเสียดสีเย็นชา
“ถ้าเธอชอบเขา คงไม่มาสืบเรื่องจากพี่หรอก ในเมื่อเธอชอบอวี่ไป๋ เวลามากมายขนาดนั้นไม่พอให้เธอได้ทำความรู้จักเขาเลยเหรอ?”
“ที่ไม่รู้จักเขาดีก็เพราะเธอสนใจและใส่ใจเขาไม่พอไงล่ะ เลยต้องเสียเวลามากขนาดนี้ พวกเธอสองสามีภรรยาช่างน่าสนใจจริง ๆ”
จิ้งเสียนเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ พลันกวาดสายตามองฉือฮวนขึ้นลงอย่างไม่เกรงใจ แล้วเผยความประหลาดใจ ตกใจและเหลือเชื่อออกมา
ใบหน้าของฉือฮวนร้อนฉ่า
ดวงตาของสือจิ้งเสียนพลันเบิกกว้างจ้องเขม็งกว่าเดิม
“ดี!”
เธอเด้งตัวลงจากเตียงแล้วยืนขึ้นพรวด กัดเล็บพลางเดินไปเดินมาในตู้รถอย่างหงุดหงิด “ทำไมเป็นอย่างนี้เนี่ย ไอ้บ้าเอ๊ย!”
มือสองข้างปรบเข้าหากันจนเกิดเสียงดังก้อง
ใจฉือฮวนก็แทบทะลุออกจากอกตามการเดินไปเดินมาของอีกฝ่าย
“ฉือฮวน!”
สือจิ้งเสียนพลันขึ้นเสียงสูงถึงเสียงคู่แปด ฉือฮวนตกใจสะดุ้งโหยง แล้วมองอีกฝ่ายอย่างงุนงง
“ว่าไงคะพี่?”
“เธอหลอกแต่งงานตั้งแต่แรกสินะ!”
“นอกจากคืนนั้นก่อนที่เธอแต่งงานกับสืออวี่ไป๋แล้วคลอดสือเยี่ยนออกมา หลังจากนั้นเธอก็ไม่ให้สืออวี่ไป๋แตะต้องแม้แต่ปลายนิ้วใช่ไหม?”
สือจิ้งเสียนถามตรงไปตรงมาอย่างโกรธ ๆ
ขนตาของฉือฮวนสั่นระริกครู่หนึ่ง เธอเงยหน้ามองอีกฝ่ายเงียบ ๆ ภายใต้แสงไฟ
ในฐานะที่แต่งงานมานานแล้ว สือจิ้งเสียนจะยังไม่เข้าใจอะไรอีก เธอพลันเข้าใจแล้วถูกความจริงข้อนี้ยั่วประสาทอย่างรุนแรง
“ไม่ได้!”
“ในเมื่อเธอไม่ชอบอวี่ไป๋ของเราขนาดนั้น ที่ยังไม่หย่าเพราะรอขึ้นปีใหม่หรือไง?”
สือจิ้งเสียนขบกรามแล้วพุ่งเข้ามาคว้าแขนฉือฮวน “ไม่ได้การ เธอไปหาสืออวี่ไป๋กับพี่เดี๋ยวนี้ วันนี้เราต้องคุยเรื่องนี้ให้จบให้สิ้นกันเสียที!”
ฉือฮวนไม่ขยับเขยื้อนดังภูผา ดวงตาโตเห็นสีดำขาวชัดเจนคู่นั้นกะพริบปริบ ๆ “พี่คะ คนที่ไม่ยอมไม่ใช่ฉัน แต่เป็นอวี่ไป๋ต่างหากค่ะ”
“ต่อให้พี่ไปหาเขา เกรงว่าเขาก็คงไม่ฟังพี่หรอก”
“อะไรนะ?”
สือจิ้งเสียนงุนงงโดยสมบูรณ์ โทสะบนร่างหายไปเกินครึ่ง แต่ยังมีความเกรี้ยวกราดเหลืออยู่ไม่คลาย ทว่าในที่สุดเธอก็ปล่อยแขนฉือฮวน
ผู้เป็นพี่สามีนั่งลงตรงข้ามฉือฮวน พูดเน้นทีละคำ “เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ พูดให้ชัดเจนหน่อย”
“แต่ก่อนฉันไม่ชอบสืออวี่ไป๋เลยค่ะ เมื่อฉันมาชอบเขาในภายหลัง เขาก็บอกว่าฉันต้องจีบเขาค่ะ แต่ฉันไม่รู้จักเขาดีเท่าไร ดังนั้นฉันจึงมาขอเรียนรู้ประสบการณ์จากพี่ค่ะ”
ดีร้ายยังไงสือจิ้งเสียนก็รู้จักน้องชายดี เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ เธอจะไม่เข้าใจอะไรได้อีก?
น้องชายโง่เง่าของเธอปล่อยวางภรรยาอย่างฉือฮวนไม่ลง เขาโดนเย็นชาใส่มานาน ผู้ชายคนอื่นก็คงทนไม่ได้ ดังนั้นจึงจงใจทดสอบฉือฮวน
เมื่อเข้าใจเรื่องราวแล้ว ความโกรธของสือจิ้งเสียนก็สลายไปส่วนหนึ่ง
“ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง”
“แต่แค่เธออยากเข้าใจเขา พี่จำเป็นต้องบอกเธอหรือไง?”
“ฝันไปเถอะ! เธอเดินทางลัดชัด ๆ!”
ความสัมพันธ์นี้เมื่อก่อนคงเป็นสืออวี่ไป๋และบ้านสือที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ พวกเขาคงพัดลอยตามความเปลี่ยนแปลงอย่างง่ายดาย แน่นอนว่าสือจิ้งเสียนต้องคว้าโอกาสในการเหยียบซ้ำเอาไว้
“สืออวี่ไป๋พูดกับเธอไม่ชัดเจนหรือไง? เขาอยากให้เธอตามจีบ ในเมื่อชอบเขา งั้นในชีวิตประจำวันปกติเธอก็พยายามทำความเข้าใจเขาสิ จากนั้นก็วางแผนการจีบ”
ฉือฮวนอ้าปาก เธอก็ใส่ใจปฏิสัมพันธ์ในทุกวัน ทว่าช่างน่าเสียดายที่เธอไม่รู้อดีตของสืออวี่ไป๋เลย
เธอมาที่นี่เพราะอยากรู้เรื่องวัยเด็กของเขาจากปากสือจิ้งเสียน
แต่ไม่รอให้ฉือฮวนอ้าปาก สือจิ้งเสียนกลับหมดความอดทนก่อน แล้วลุกขึ้นดันหลังไล่เธอออกไป
“พอแล้ว ๆ พี่ไม่ได้มีหน้าที่มาช่วยเธอนะ เดิมทีบ้านสือของเราก็ไม่ชอบสะใภ้อย่างเธออยู่แล้ว มีปัญหาก็แก้เองซะ สามีตัวเองก็ไปโอ๋เอง ขออภัยที่พี่ช่วยเธอไม่ได้!”
พูดจบก็ดันเธอออกไปอย่างไม่สนอะไรแล้วปิดประตู
ห่างกันแค่ประตูกั้น ฉือฮวนเผชิญกับสายตาแปลก ๆ ของคนเดินผ่านไปมา รู้สึกกระอักกระอ่วนมากแต่ไม่ยอมแพ้ เธอพูดกับสือจิ้งเสียนที่อยู่ด้านใน
“พี่คะ ฉันจะกลับมาหาพี่อีกนะคะ!”
ไร้ความเคลื่อนไหวจากด้านใน
ฉือฮวนขบปากแล้วหมุนตัวกลับ
เธอจับลูกบิดประตู ขณะบิดประตูออกก็มีเงาร่างสูงใหญ่โน้มออกมาจากด้านใน ท่าทางสืออวี่ไป๋เหมือนกำลังออกไปข้างนอก ในตอนนี้เขากำลังมองเธอจากมุมสูง
“คุณจะออกไปข้างนอกเหรอคะ?”
“อืม แต่ตอนนี้ไม่แล้ว”
“คุณจะไปหาฉันสินะคะ”
ฉือฮวนพลันแย้มยิ้มดังดอกไม้บานสะพรั่ง เธอยิ้มแฉ่งให้เขา
“คุณกับพี่ทะเลาะกันหรือเปล่าครับ?”
ดวงตาฉือฮวนชุ่มฉ่ำ นิ้วมือขาวซีดกำลังจับลูกบิดประตูอยู่ “สืออวี่ไป๋ ดูเหมือนคุณจะพลาดเรื่องอะไรไปนะคะ?”
“เรื่องอะไรครับ?”
ฉือฮวนมองคนเดินผ่านไปมาด้านหลัง เมื่อเข้าห้องก็ปิดประตู
ความเงียบกระจายภายในอากาศ
ฉือฮวนตกอยู่ในความวิตก เธอออกแรงขูดเล็บ เนื้อสีชมพูถูกกดอย่างแรงจนซีดขาว เจ็บเล็กน้อย แต่ราวกับเธอไม่รู้ตัว
“พูดเลยครับ”
มือเรียวจนเห็นข้อนิ้วคว้ามือที่กำลังทำร้ายตัวเองของเธอ
ฉือฮวนพลันเงยหน้าฉับมองสืออวี่ไป๋ เมื่อไม่สามารถขูดเล็บได้แล้ว ริมฝีปากจึงถูกฟันขาวขบจนซีดแทน
“สืออวี่ไป๋ เมื่อกี้ฉันไปหาพี่คุณมาค่ะ ฉันอยากรู้เรื่องราวในวัยเด็กของคุณ แต่ถูกพี่คุณหลอกให้พูดความจริงโดยไม่ทันระวังตัวค่ะ เธอรู้แล้วว่าสามปีที่เราแต่งงานกัน มันมีแค่เปลือก”
“พวกเรา…”
ใจเธอพลันดิ่งลง ลางสังหรณ์ไม่ดีจู่โจมเธอ “คงไม่เกิดปัญหาอะไรใช่ไหมคะ?”
MANGA DISCUSSION